6 ค่ายรถต่างชาติ หนุน ไทยขับเคลื่อนรถอีวี สู่สังคมคาร์บอนต่ำ

6 ค่ายรถต่างชาติ หนุน ไทยขับเคลื่อนรถอีวี สู่สังคมคาร์บอนต่ำ

6 ค่ายรถต่างชาติ พร้อมสนับสนุนภาครัฐกระตุ้นตลาดรถอีวีในประเทศไทย เตรียมร่วมมือ กฟผ.ขยายปั๊มชาร์จ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถ รับเทรนด์โลกมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

กระแสตื่นตัวในหลายประเทศทั่วโลกที่มุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์ (Carbon neutrality) หรือ สังคมคาร์บอนต่ำ และให้ความสำคัญกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์สันดาป

ทำให้ 6 ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ทั้งเจ้าตลาดรายใหม่และรายเก่าในประเทศไทย ได้แก่ Audi, BMW, Mercedes-Benz, MG, Nissan และ Porsche ขานรับต่อเทรนด์ของโลกที่มุ่งส่งเสริมการใช้รถยนต์สมัยใหม่ ซึ่งนอกจาก 6 ค่ายนี้ จะนำรถอีวี เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย

ล่าสุด ยังประกาศตัวพร้อมสนับสนุนภาครัฐร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อรองรับการใช้งานรถอีวี สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถ โดยผนึกความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “EleX by EGAT” ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

นายกฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทแม่ตั้งเป้าหมายจะมียอดขายรถอีวี เป็น 70% ของจำนวนรถที่ผลิตภายในปี 2573 ซึ่งบริษัท ได้นำรถอีวี เข้ามาจำนวนในประเทศไทย 2 รุ่นแล้ว และ 18 มี.ค.นี้ เตรียมเปิดตัวรุ่นที่3 เพื่อเพิ่มทาเลือกให้กับผู้ใช้รถ

“รถอีวี จะเป็น S-Curve ที่สำคัญของไทย จากการสนับสนุนของภาครับ และค่ายรถยนต์ Audi พร้อมจับมือกับ กฟผ. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการใช้รถอีวีในเวลารวดเร็วขึ้น”

161554638153

Mr. Alexander Baraka President, BMW Group Thailand กล่าวว่า บริษัท ได้วางรากฐานส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยเป็นเจ้าแรกๆที่ผลิตรถอีวี และเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ซัพพลายรถอีวี 3 รุ่นให้กับไทย รวมถึงส่งเสริมการจัดตั้งปั๊มชาร์จ ซึ่งปัจจุบัน BMW มีปั๊มชาร์จโลโก้ Charge Now จำนวน 161 หัวจ่าย และในอนาคตจะร่วมกับ กฟผ. ขยายปั๊มชาร์จรถอีวีให้มากขึ้น เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งรองรับรถอีวี เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ

Mr. Roland Folger President& CEO of Mercedes-Benz (Thailand) Limited กล่าวว่า Benz ได้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์สมัยใหม่ โดยในประเทศไทย ได้ผลิตรถปลั๊กอินไฮบริด และในปี 2563 ยังได้ส่งออกรถปลั๊กอินไฮบริดและแบตเตอรี่ไปยุโรป ขณะที่ปีนี้ จะมีการผลิตรถอีวี ที่เป็นการประกอบในประเทศไทย

“บริษัทได้ลงทุนผลิตแบตเตอรี่เต็มรูปแบบสำหรับรถอีวี ซึ่งจะเกิดการจ้างงานอีกมาก ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านยูโร และจะเพิ่มเรื่องการประกอบรถด้วย ปัจจุบันบริษัทฯมีรถปลั๊กอินไฮบริดอยู่ 2 หมื่นคัน”

Mr. Zhang Haibo President of SAIC Motor-CP Co., Ltd. And MG SALES (Thailand) Co., Ltd. กล่าวว่า ในปี 2563 บริษัท มียอดขายรถอีวี รวม 1.8 ล้านคัน ขณะที่ในประเทศไทย เชื่อมั่นว่าจะเป็นตลาดหลักของรถอีวี จากการมีผู้เล่นที่สมบูรณ์ใน 3 ส่วน คือ 1.การมี OEM ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ 2.การพัฒนาปั๊มชาร์จรถอีวี 3.การผลักดันจากภาครัฐในการกำหนดนโยบายสนับสนุนให้เกิดรถอีวี เช่น การที่ กฟผ. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจได้เข้ามาร่วมผลักดันส่งเสริมรถอีวีให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

161554641451

Mr. Ramesh Narasimhan President Nissan Motor Thailand Co.,Ltd. กล่าวว่า นิสสัน มองว่าอุตสาหกรรมยนต์จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนจาการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และในประเทศไทย นิสสันลีฟ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าจะขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน

 “การผลักดันการใช้รถอีวี ในไทยยังมีอุปสรรคคือ คนกลัวไฟฟ้าในรถอีวี จะหมดก่อนถึงจุดชาร์จ และกังวลว่าปั๊มชาร์จจะไม่เพียงพอ ซึ่ง 2 สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจต่อการปรับพฤติกรรมผู้ใช้รถที่สำคัญ” 

Mr. Peter Rohwer Managing Director of Porsche Thailand AAS Auto Service ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านการใช้รถอีวี ในประเทศไทยจะไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากยังต้องปรับปรุงด้านเทคนิค เช่น ระยะเวลาการชาร์จต้องเร็วขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานต้องมีความหลากหลายรองรับรถอีวี

ดังนั้น การที่บริษัทมาร่วมมือกับ กฟผ. ถือเป็นหลักประกันให้เกิดความมั่นใจกับผู้ใช้รถอีวี  ในไทยว่าจะมีปั๊มชาร์จรองรับการใช้งานของรถอีวีแน่นอน

ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ EGAT EV Business Solutions ลงนามความร่วมมือ EV Charging Station & Platform co creation for Electric Vehicles Project ระหว่าง กฟผ. และพันธมิตรจาก 6 บริษัทรถยนต์ชั้นนำ ได้แก่ Audi, BMW, Mercedes-Benz, MG, Nissan และ Porsche เพื่อให้ความร่วมมือกันในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า Application เชื่อมโยงข้อมูล และการส่งเสริมการขาย

โดย กฟผ. มีแผนขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าEleX by EGAT” ที่ชาร์จไฟได้รวดเร็ว เพิ่มเป็น 48 สถานี ภายในสิ้นปี 2564 จากปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 13 สถานี และล่าสุด กฟผ.ได้จับมือกับบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด(มหาชน) หรือ PTG เตรียมเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้านำร่องที่สถานีบริการน้ำมัน PT สาขาปากช่อง 3 จ.นครราชสีมา ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ พร้อมเตรียมจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้บริการชาร์จรถอีวี ซึ่งคาดว่า ราคาค่าบริการชาร์จไฟสำหรับรถอีวีจะไม่เกิน 1 บาทต่อกิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม การจะส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ให้บรรลุเป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำนั้น ยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคนโยบายที่ชัดเจนด้วย