กขค.คลอดเกณฑ์คุม ‘CP-Lotus‘ ลุยรีแบรนด์ค้าปลีก

กขค.คลอดเกณฑ์คุม ‘CP-Lotus‘ ลุยรีแบรนด์ค้าปลีก

บอร์ดแข่งขันทางการค้า รอ 3 กก.ใหม่ ร่วมพิจารณาเกณฑ์คุม”ซีพี”ควบโลตัส คาดเริ่มงานได้สัปดาห์หน้า ด้านสขค.ออกข้อกำหนดเข้มคุมซีพีปฏิบัติตามเงื่อนไข 7 ข้อควบรวมโลตัส ฝ่าฝืน เจอปรับ0.5% ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด หากใช้อำนาจเหนือตลาดโดนหนักคุก 2 ปี

คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุญาตให้ บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ซื้อหุ้น บริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทย

ภายหลัง กขค.มีมติอนุญาตเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563 และซีพีทำหนังสือยอมรับภายใน 60 วัน ซีพีได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็น บริษัท โลตัสส์ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทั้งเปลี่ยนกรรมการบริษัททั้งหมดเป็น 1.อดิเรก ศรีประทักษ์ 2.อำรุง สรรพสิทธิ์วงศ์ 3.ศุภชัย เจียรวนนท์

นอกจากนี้ ซีพีได้เปลี่ยนเครื่องหมายการค้า Tesco Lotus เป็น Lotus's โดยเริ่มเปลี่ยนที่สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นสาขาแรกเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564

สำหรับบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ซึ่งทำกิจการค้าปลีกสินค้าอุปโภค บริโภค และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องภายใต้ชื่อเทสโก้ โลตัส ในปี 2563 แจ้งกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีรายได้รวม 187,958 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าลดลง 0.35% ในขณะที่ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 12,107 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 54.83%

ภารกิจสำคัญของ กขค.หลังการอนุญาตให้ควบรวมกิจการ คือ การกำหนดแบบฟอร์มที่เป็นแนวปฏิบัติให้ซีพีดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้ควบรวมกิจการ 7 ข้อ ซึ่งขณะนี้ กขค.ยังไม่ได้สรุปแนวทางดังกล่าว ในขณะที่ซีพีเริ่มเดินหน้าการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรหลังจากได้รับอนุญาตให้ควบรวมกิจการ

สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนของซีพีไปแล้ว 2-3 รอบ เพื่อพิจารณารายละเอียดแนวทางที่ต้องทำตามเงื่อนไข 7 ข้อ ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปจะต้องนำมาเสนอ กขค.ให้ความเห็นชอบก่อนที่จะนำไปใช้บังคับกับซีพี

“ขณะนี้กำลังรอกรรมการคนใหม่ 3 คนมาร่วมพิจารณาด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในระหว่างที่รอกรรมการใหม่ 3 คน สำนักงานจะจัดทำรายละเอียดไปก่อน ส่วนงานอื่นของคณะกรรมการก็ต้องชะลอไปจนกว่าจะกรรมการใหม่ทั้ง 3 คน ที่คาดว่าจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้สัปดาห์หน้า”

รายงานข่าวระบุว่า การแต่งตั้งกรรมการใหม่ 3 คน เพื่อทดแทนผู้ที่พ้นวาระตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า อยู่ในขั้นตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งก่อนปฏิบัติหน้าที่

161553951746

สมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า   ขณะนี้สำนักงานได้กำหนดแนวทางการตรวจสอบ และติดตาม ผลการปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อให้กลุ่มซีพีได้ปฏิบัติแล้ว โดยให้รายงานผลการประกอบธุรกิจตามเงื่อนไขที่กำหนดในวันที่ 1 เม.ย.2564 และรายงานผลเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้ กขค. สามารถติดตามและตรวจสอบการประกอบธุรกิจได้อย่างเข้มงวด ซึ่งแนวทางดังกล่าวประกอบด้วย

1.ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) รวมทั้งบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องมีหนังสือรับรองว่าจะไม่รวมธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นในตลาดค้าปลีกค้าส่งเป็นระยะเวลา 3 ปี และในกรณีที่มีการซื้อหุ้นหรือซื้อทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งรายอื่นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั่วไปแต่การซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินไม่เข้าหลักเกณฑ์การรวมธุรกิจจะต้องรายงานให้ กขค. ทราบภายใน 15 วัน

2.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด แจ้งแผนการเพิ่มสัดส่วนของยอดขายสินค้าที่มาจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้แก่ กลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าวิสาหกิจชุมชนหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) และกลุ่มสินค้าอื่นๆ โดยให้เพิ่มยอดขายจากปี 2563 ในอัตราไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี และให้รายงานผลการดำเนินการภายในไตรมาสแรกของทุกปี

3. ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) มีหนังสือรับรองว่าจะไม่ใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ โดยให้ถือว่าเป็นความลับทางการค้า

4. ให้บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ดำเนินการคงไว้ตามเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิมที่ได้มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงไว้แล้วก่อนการรวมธุรกิจเป็นระยะเวลา 2 ปี เว้นแต่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นคุณหรือประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ และจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบนั้นๆ และรายงานผลการดำเนินการทุก 3 เดือน

5. ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด กำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อทางการค้า (Credit Term) แก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยกลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน สินค้า OTOP ไม่เกิน 30 วัน และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ไม่เกิน 45 วัน เป็นระยะเวลา 3 ปี กรณีข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิมน้อยกว่าให้ใช้ข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิม โดยให้รายงานผลการให้สินเชื่อทางการค้าของ SMEs ทุกรายในวันที่ 1 เมษายน 2564 และให้รายงานผลการดำเนินการเป็นประจำทุก 3 เดือน

6.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด รายงานผลการประกอบธุรกิจ ได้แก่ ข้อมูลสาขาและการขยายสาขาหรือยกเลิกสาขาทุกจังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 1 เม.ย. 2564 และรายงานผลการขยายสาขาหรือยกเลิกสาขารวมทั้งรายงานยอดขายสินค้าจำแนกตามหมวดสินค้าเป็นประจำทุก 6 เดือน

7.ให้กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด และบริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ดี (Code of Conduct) และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ในวันที่ 1 เม.ย. 2564 และให้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว รวมทั้งต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางการพิจารณาทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย พ.ศ. 2562

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทซีพีในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด จะต้องไม่มีการกระทำที่เป็นข้อห้ามของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560

 “หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ และหากฝ่าฝืนข้อห้ามการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด จะมีโทษอาญาจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 10%  ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ “

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางการปฏิบัติที่กขค.ออกมาคุมเพื่อให้กลุ่มซีพีได้ดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไข 7 ข้อของการควบรวมกิจการวม ถ้าซีพีดำเนินการไม่ถูกต้องสามารถร้องเรียนที่สำนักงาน กขค.ได้ ซึ่งกฎหมายแข่งขันทางการค้ามีบทลงโทษให้ยกเลิกมติการควบรวมกิจการได้หากไม่ทำตามเงื่อนไขการควบรวมและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างเด็ดขาด