Commerce Sector (11 มี.ค.64)

Commerce Sector (11 มี.ค.64)

การบริโภคภาคเอกชนยังมี Upside อีก

Event

อัพเดตแนวโน้มกลุ่มการพาณิชย์

lmpact

กระแสข่าวบวกจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว และภาวะเศรษฐกิจ

การกระจายวัคซีนทั่วโลก และกรอบเวลาในการเปิดประเทศที่ชัดเจนทำให้มีแนวโน้มว่านักท่องเที่ยวต่างชาติและภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ โดยมีกระแสข่าวบวกดังนี้ i) การอนุมัติ vaccine passport (กระทรวงสาธารณสุขจะออกเอกสารให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ครบแล้ว) ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้สะดวกขึ้น ii) ลดช่วงเวลาบังคับกักตัว สำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว จากเดิม 14 วัน เหลือ 7-10 วันตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป (ดูบทวิเคราะห์ของ Hotel sector: Promising path to recovery ของ KGI ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564) และ iii) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ผ่อนคลายเกณฑ์ให้เที่ยวบินระหว่างประเทศสามารถมา transit/transfer ที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 และคาดว่าจะกลับมาเปิดประเทศเต็มที่ในเดือนตุลาคม 2564 ดังนั้น นักวิเคราะห์กลุ่มโรงแรมของ KGI จึงประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะ
เพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านคนในปีนี้ เป็น 32 ล้านคนในปี 2565 (Figure 2 - Figure 3)

ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์จาก upside ของการบริโภคภาคเอกชน

เรามองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะดีที่จะพลิกมา bullish มากขึ้นกับหุ้นการบริโภคของไทย ซึ่งเมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่าจะเห็นการโยกจากหุ้นกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้อานิสงส์จาก global reflation/การฟื้นตัวของการค้าโลก อย่างเช่น พลังงาน, ปิโตรเคมี และวัสดุ มาเป็นหุ้นกลุ่มถัดมา อย่างเช่น กลุ่มการบริโภคในประเทศ และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามองว่ามีเหตุผลสามข้อเมื่อพิจารณาแบบ top-down ซึ่งสนับสนุนมุมมองด้านบวกของเราต่อกลุ่มการพาณิชย์ ข้อแรกคือนักเศรษฐศาสตร์ของเราเชื่อว่าในปัจจุบัน ตลาดมีความคาดหวังต่ำต่อแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชน และ GDP ของไทยในปีนี้ และน่าจะมีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้น โดยประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2564 ของเราสูงกว่า consensus โดยอยู่ที่ +3.9% และประเมินกรณีดีที่สุดไว้ที่ +5.8% ข้อที่สองคือ หลังจากที่มีการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 แล้ว การผ่อนคลายระยะเวลาการยังคับกักตัวโดยรัฐ และโครงการ vaccine passport ก็ส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 2Q64 และน่าจะชัดเจนมากขึ้นใน 2H64 ข้อที่สามคือ คณะรัฐมนตรีของไทยน่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกใน 2Q64 ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนมองเลยไปที่ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มการพาณิชย์ในปี 2565 และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 (Figure 9)

Valuation & Action

เราปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มการพาณิชย์เป็น Overweight จาก Neutral เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และภาวะเศรษฐกิจ เราเลือก C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* และ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)* เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้จากธีมการกลับมาเปิดประเทศ เราแนะนำ "ซื้อ" CPALL ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 84.00 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x และแนะนำ "ซื้อ" HMPRO ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 17.80 บาท อิงจาก PER ที่ 36.0x

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ,พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป, ขยายสาขาใหม่ได้น้อยกว่าที่คาดไว้, การหาทำเลเพื่อขยายสาขา