ประชาชนแห่ใช้ 'เราชนะ' ยอดขายพุ่งเท่าตัว

ประชาชนแห่ใช้ 'เราชนะ' ยอดขายพุ่งเท่าตัว

มาตรการรัฐหนุนการจับจ่ายใช้สอย ดันยอดขายร้านธงฟ้าพุ่งเท่าตัว ด้านพาณิชย์ขู่ร้านค้าห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ห้ามทำผิดเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการภาครัฐ หากผิดยกเลิกสิทธิ์เข้าร่วมโครงการทันที

'หลังจากประชาชนได้รับเงินเยียวยา ‘เราชนะ’ เพื่อช่วยเหลือประชาชน จากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ทั้งผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคัก ประชาชนเดินทางมาซื้อของใช้ในครัวเรือนกันอย่างต่อเนื่อง'

เจ้าของร้านโพธิสมบัติ ย่านจรัญสนิทวงศ์ ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ที่เข้าร่วมโครงกาเราชนะ บอกว่า ตอนนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวมีทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้าทั่วไปเดินทางมาซื้อของกันคึกคัก ถือว่าโครงการเราชนะ ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวตัวขึ้น ลูกค้ามีแรงใช้จ่ายมากขึ้น ร้านค้ามีรายรับจากการขายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนราคาสินค้านั้นยืนยันว่าทางร้านไม่ปรับราคาเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนอย่างแน่นอน

ขณะที่ประชาชนผู้ที่รับสิทธิในโครงการเราชนะ บอกว่า ตั้งแต่มีโครงการเราชนะ ก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ส่วนราคาของบางอย่างแพงขึ้นบ้างเล็กน้อย เช่น น้ำมันปาล์มขวดที่ปรับเพิ่มขึ้นช่วงนี้ 2-5 บาท ซึ่งยังพอรับได้ แต่โดยปกติจะเลือกซื้อในร้านประจำที่ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคามากจนเกินไป

ด้านปลัดกระทรวงพาณิชย์ บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ระบุว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าของร้านที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าจริงหรือไม่ เบื้องต้นไม่พบว่ามีการจำหน่ายเกินราคา แต่อาจจะมีบางสินค้าขึ้นราคาบ้างเพราะมีต้นทุนที่สูงขึ้น

กรณีที่พบว่ามีการกระทำผิดจะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและแจ้งกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเรียกคืนเครื่องอีดีซี หรือยกเลิกการใช้แอพพลิเคชั่นด้วย นอกจากนี้จะประสานกระทรวงการคลังในฐานะผู้ดูแลโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ หรือโครงการอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบพบว่าไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และหากจำหน่ายสูงเกินสมควร จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประเทศ

ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจบิซอินไชท์ รายงาน