SCB ลุ้น PACE คืนหนี้ก้อนแรกต้นปีหน้า

ไทยพาณิชย์หวังได้เงินชำระหนี้ก้อนแรกจาก “เพซ” 5 พันล้านต้นปีหน้า หลังคอนโด นิมิตหลังสวนเสร็จ-โอนให้ลูกค้าต้นปีหน้า พร้อมเร่งพลิกฟื้นธุรกิจดีน แอนด์ เดลูก้า ชู ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปีนี้โตต่อ10-12% พร้อมไพรเวทแบงกิ้ง แตะ สู่1ล้านล้านใน2ปี
ทั้งนี้คาดว่า PACE น่าจะก่อสร้างเสร็จ และโอนคอนโดให้ลูกค้าได้ภายในต้นปีหน้า และสามารถนำเงินมาชำระเงินคืนเงินกู้ให้กับธนาคารก้อนแรกได้ ภายในต้นปีหน้าเช่นกัน ราว 5 พันล้านบาท จากวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยไปทั้งหมดกว่า 1หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ในส่วนของ บริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ (D&D Inc.) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PACE ที่ล่าสุดธนาคารได้เข้าถือหุ้นใน โดยผ่านกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนราว 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด หลังจากนี้ธนาคารจะเร่งเข้าไปปรับโครงสร้างธุรกิจรวมถึงแผนการทำธุรกิจในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจกลับมาฟื้นและสร้างการเติบโตในอนาคตได้มากขึ้น
“เชื่อว่า ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก เพราะยังเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรได้ แต่ธุรกิจนี้พึ่งพานักท่องเที่ยวเยอะ ดังนั้นยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ส่วนการปรับโครงสร้างธุรกิจเรามีหลายแนวทางซึ่งจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด”
สำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งราว 90% ส่วนใหญ่ยังอยู่ในมาตรการช่วยเหลือของธนาคาร เช่นพักหนี้
แต่หากครบกำหนดพักหนี้ในมิ.ย. แล้วลูกค้าไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ธนาคารก็จะพิจารณาในการให้การช่วยเหลือต่อไป เป็นรายกรณีๆ แต่เชื่อว่ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำ เพราะก่อนเกิดโควิด-19 กลุ่มนี้ถือเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ และหากดูด้านหลักทรัพย์ค้ำประกันถือว่าคุ้มมูลหนี้ เพราะที่ผ่านมาธนาคารมีการปล่อยกู้หรือให้ LTV เพียงระดับ 40-60% ของหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้นเชื่อว่ากลุ่มนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเชิงคุณภาพหนี้
ส่วนภาพรวมการเติบโตด้านสินเชื่อของธนาคารปีนี้ตั้งเป้าโต 3-5% เนื่องจากคาดภาคธุรกิจ และรายย่อยที่ยังมีความต้องการสินเชื่อ ส่วนธุรกิจอื่นๆของธนาคารปีนี้ คาดว่ายังเติบโตที่ดี เช่น รายได้จากธุรกิจประกัน ที่คาดโตต่อปีนี้ราว 20% รวมถึงธุรกิจ
เวลธ์ ที่จะเป็นตัวหนุนการเติบโตให้กับธนาคาร ต่อเนื่อง
นายสารัชต์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจ บริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) คาดว่าปีนี้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ราว 10-12% ในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร หรือ AUM จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 2ล้านล้านบาท
ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนี้ คาดโตได้กว่า 20% จากความต้องการลงทุนภายใต้ดอกเบี้ยต่ำของลูกค้าที่มากขึ้น รวมถึงฐานลูกค้าของไทยพาณิชย์ที่มีกว่า 16 ล้านราย และมีเงินฝากติด 1ใน3ของประเทศ ที่จะเป็นตัวหนุนให้ธุรกิจมั่งคั่งเติบโตได้ต่อเนื่อง
ในส่วนของธุรกิจไพรเวทแบงกิ้งธนาคาร ตั้งเป้า ภายใต้ 2 ปี ธนาคารน่าจะมีAUM แตะ 1ล้านล้านบาท และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของตลาดได้ จากปัจจุบันที่มีAUM ราว 8.5 แสนล้านบาท




