อาจย่อจากผลการลดน้ำหนักของ MSCI ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว

อาจย่อจากผลการลดน้ำหนักของ MSCI ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว

OR และผลกระทบจากการเข้าซื้อขาย

PTTOR (ชื่อย่อ OR) บริษัทย่อยของ PTT ที่ทำธุรกิจสถานบริการน้ำมันและค้าปลีก เข้าทำการซื้อขายวันแรกวันนี้ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตามการฟื้นตัวของธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด และการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งคิดเป็น 30% ของธุรกิจของบริษัท ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน คิดเป็น 70% ของบริษัท ซึ่งเมื่อประเมินมูลค่าเหมาะสมของธุรกิจค้าปลีกและน้ำมันอิง PER เฉลี่ยของธุรกิจที่ใกล้เคียงกันในภูมิภาคที่ 29 และ 19 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมที่ 22 บาท ขณะที่หากใช้วิธีการประเมินอื่น อาทิ EV/EBITDA และ DCF จะได้ 17.7 และ 20.4 บาท ดังนั้นกรอบมูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 17.7-22 บาท หากเปิดการซื้อขายที่ราคาต่ำกว่า 20 บาท เรามองมีความน่าสนใจในการลงทุน ขณะที่ด้วยมูลค่า market cap ที่ 2.16 แสนล้านบาท ติดอยู่ใน 20 อันดับแรก ทำให้จะได้รับการนำเข้าคำนวณใน SET50 และ SET100 ด้วยเกณฑ์ Fast track โดยหุ้นที่คาดว่าจะหลุดจาก SET50 ได้แก่ TTW ขณะที่ SET100 หุ้นที่อยู่ใน 3 ลำดับสุดท้ายคือ TKN, GFPT และ WHAUP มีโอกาสหลุดใกล้เคียงกัน

มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ส่งผลบวกต่อการตั้งสำรองของธนาคารและกลุ่มการเงิน ธปท.ร่วมกับกรมบังคับคดีและผู้ให้บริการทางการเงิน 21 ราย จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ระหว่าง 14 ก.พ.-14 เม.ย.64 ซึ่งมาตรการช่วยเหลือครั้งนี้ดำเนินการได้กับหนี้ทุกระดับ ทั้งยืดระยะเวลาชำระหนี้, งดเว้นดอกเบี้ย, แปลงสภาพหนี้รายเดือนเป็นก้อน คาดส่งผลดังนี้ 1) ลดการตั้งสำรองลง และลดโอกาสที่หนี้จะกลายเป็น NPL 2) ผลบวกเกิดกับคนที่มีฐานลูกค้าบัตรและสินเชื่อบุคคลสูง ได้แก่ BAY และ SCB ซึ่งมีสัดส่วนสินเชื่อที่ 11% และ 6% ของพอร์ตสินเชื่อรวม 3) คาดผลวกต่อ non-bank มากกว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่เข้าร่วมได้แก่ MTC, AEONTS และ SAK

อาจย่อจาก MSCI ลดน้ำหนัก กลยุทธ์ยังคงเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว การปรับหุ้นขอว MSCI รอบก.พ.ซึ่งมีหุ้นจีนและอินเดียเข้าคำนวณมาก ส่งผลให้ทั้งสองประเทศได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นส่วนใหญ่ถูกปรับลดน้ำหนักลง แต่ยังคงไม่มีสัญญาณปรับฐานใหญ่ และเรายังเชื่อว่าตลาดจะปรับฐานแบบใช้เวลา (แกว่งออกข้าง สร้างฐาน แต่ลงไม่ลึก) ผ่านการขายทำกำไรรายตัว และสลับตัวเก็งกำไร ระหว่างกลุ่มนำตลาด (ธนาคาร, ปิโตร, พลังงาน, การเงิน) และมีการดึงหุ้นรายตัวขึ้นมาเก็งกำไรสร้างสีสัน โดยธีมที่น่าสนใจระยะสั้นได้แก่ 1) เครื่องดื่มผสมสมุนไพร (กัญชา) เราชอบ DOD และ SAPPE 2) การเข้า IPO ของ PTTOR บวกต่อหุ้นสถานีบริหารน้ำมัน อย่าง PTG 3) ข่าววัคซีนและสถานการณ์โควิดในประเทศที่ดีขึ้น บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว 4) พลังงานทดแทน โดยเฉพาะขยะชุมชนและแบตเตอรี่ บวกต่อ ETC, ACE, SUPER, EA, GPSC

ภาพรวมกลยุทธ์ ยกกรอบการเล่น 1,500-1,550 จุด โดยยังเป็นการหมุนในกลุ่มนำตลาด ปิโตรเคมี, การเงิน, ธนาคาร สลับกับการเก็งกำไรรายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังขึ้นน้อย หรือมีปัจจัยสนับสนุน  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร GPSC*, PTG*, ETC*, BANPU*

แนวรับ 1,502/ แนวต้าน : 1,520-1,528 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

เฟดย้ำคงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อจนกว่าตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อฟื้นเต็มที่. นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เผยว่าต้องการเห็นตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อฟื้นตัวอย่างยั่งยืนก่อนพิจารณาปรับลดวงเงิน QE มูลค่า $1.20 แสนล้านต่อเดือน พร้อมย้ำจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ศูนย์ต่อไป

เงินเฟ้อสหรัฐโตต่ำกว่าคาด. กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI Index) เดือน ม.ค. ปรับตัวขึ้น 1.4% yoy ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 1.5% yoy

MSCI Rebalance. จีนและอินเดีย ถูกปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนที่ 0.29% และ 0.06% คิดเป็นเงินลงทุนราว $1.065 พันล้าน และ $203 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่ประเทศอื่นในกลุ่ม EM ถูกปรับลดน้ำหนักลง โดยทั้งหมดจะมีผลวันที่ 26 ก.พ. 64 ในส่วนของ MSCI Thailand ถูกปรับลดน้ำหนักลง -0.01% คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนราว -$41 ล้าน ไม่มีการปรับหุ้นเข้าออก โดยมีการเพิ่มน้ำหนัก GULF ขณะที่ PTT CPALL KBANK-F SCC AOT ADVANC BDMS KBANK PTTEP PTTGC ถูกปรับลดน้ำหนักลง

ประเด็นติดตาม: - 11 ก.พ.: OPEC monthly report, 15 ก.พ.: TH GDP 4Q63, 16 ก.พ.: EU GDP 4Q63

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)