AOT - ถือ

AOT - ถือ

ยังคงอ่อนแอ

เราคาดผลประกอบการ AOT ที่ขาดทุนปกติ 3พันลบ. ใน 1Q21F เนื่องจากยอดขายฟื้นตัวได้เล็กน้อย จากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่จำกัด และต้นทุนคงที่ในการบริหารสนามบินสูงทั้งจากแรงงาน สาธารณูปโภคและค่าเช่าขั้นต่ำ ให้กับกรมธนารักษ์ ในขณะที่เราเชื่อว่าแนวคิดการฟื้นตัวของ AOT จาก pent-up demand  ยังคงเดิม แต่ valuation ปัจจุบันได้รวมแนวคิดนี้ไปแล้ว และมีความเสี่ยงต่อกำไรของ AOT ปี FY21 ซึ่งจะปรับใช้มาตรฐาน TFRS16 และความเป็นไปได้ของการเลื่อนการเปิดประเทศ เนื่องจากการระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ภายในประเทศในช่วงสั้น

 

ผลประกอบการ 1Q21F ยังคงขาดทุนจากการปิดประเทศ

เราคาดว่าผลประกอบการ 1Q21F จะขาดทุนปกติที่ 3,044ลบ. ขาดทุนมากกว่า 4Q20 และกำไร 6.8พันลบ.ใน 1Q20 การขาดทุนที่ลึกมาจากการฟื้นตัวของยอดขายจำกัดจากการปิดประเทศ ในขณะที่การฟื้นตัวของผู้โดยสารภายในประเทศกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่กลางธ.ค. ในขณะที่ต้นทุน AOT ปรับตัวขึ้น QoQ จากค่าเช่าขั้นต่ำที่ต้องจ่ายให้กับกรมธนารักษ์ เทียบกับการคืนค่าเช่าใน 4Q20

 

ยอดขายปกติฟื้นตัวได้เล็กน้อยจากผู้โดยสารภายในประเทศ

เราคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารใน 1Q21F จะลดลงมากขึ้น (-92% yoy) สู่ 551ลบ.ในไตรมาสนี้ จากจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศฟื้นตัวได้ปานกลาง (5.2m; -28% yoy) และผู้โดยสารระหว่างประเทศฟื้นตัวได้จำกัด ในส่วนของรายได้จากสัมปทานใน 1Q21F เราคาดว่าจะอยู่ที่ 511ลบ. (-88% yoy, +15% qoq) การลดลง Yoy หลักๆมาจากกิจกรรมที่จำกัดของยอดขายร้านค้าปลอดภาษี ส่วนการฟื้นตัว qoq มาจากยอดขายในพื้นที่พาณิชย์สูงขึ้น (รายได้อาหารและเครื่องดื่ม)

 

แนะนำ ถือ การฟื้นตัวถูกรวมในราคาแล้ว; ความเสียงดาวน์ไซด์น่ากังวล

เราเชื่อว่าความต้องการที่ถูกระงับมา (pent-up demand) จากการเปิดประเทศหรือมาตรการ travel bubble จะเริ่มขึ้นหลังการให้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพแก่ประชาชนในวงกว้างประสบความสำเร็จ แต่ valuation ของ AOT ได้รวมภาพการฟื้นตัวนี้เข้าไปแล้ว เรามองว่ามีความเสี่ยงดาวน์ไซด์ต่อ AOT ในประเด็น 1). การปรับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS16 กระทบกำไร 1พันลบ. และ 2). ความเป็นไปได้ของการเลื่อนเปิดประเทศ ทำให้อาจมีการปรับคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารลง