CPF ยกการ์ดสูงสกัดโควิค คุมมาตรฐานทั้งซัพพลายเชน

CPF ยกการ์ดสูงสกัดโควิค คุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัย ดูแลตลอดซัพพลายเชน เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
การระบาดของ “โรคโควิด-19” เกือบตลอดทั้งปี 2563 และประเทศไทยควบคุมการะบาดได้ แต่ช่วงเดือน ธ.ค.2563 มีการระบาดเพิ่มขึ้นนำมาสู่มาตรการที่เข้มงวดและแบ่งพื้นที่การควบคุมเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลืองและสีเขียว โดยล่าสุดขยายพื้นที่สีแดงที่ควบคุมสูงสุดเป็น 28 จังหวัด ในจำนวนนี้รวมถึงกรุงเทพฯ และต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปถึง 28 ก.พ.2564
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคการผลิตและภาคบริการต้องยกระดับมาตรการป้องกัน ซึ่งหลายรายได้นำมาตรการที่ใช้ในการระบาดรอบแรกในปี 2563 มาปรับใช้ ขณะที่บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ใช้มาตรการ “ยกการ์ดสูง” ตลอดห่วงโซ่การผลิต
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟตั้งศูนย์อำนวยการโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 โดยยกระดับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดตามแนวปฏิบัติของภาครัฐและเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งมั่นใจว่ารองรับการระบาดรอบใหม่ได้ดี รวมทั้งมีมาตรการเสริมควบคู่การป้องกันทุกมิติ โดยเฉพาะพนักงานที่เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตอาหารก่อนส่งมอบให้ผู้บริโภค
สำหรับกระบวนการผลิตของฟาร์มและสถานประกอบการได้ยกระดับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณสำนักงาน วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ห้องบรรจุและอุปกรณ์เครื่องมือ โดยพนักงานทุกคนในฟาร์มและโรงงานต้องปฏิบัติตามมาตรอย่างเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รถขนส่งสินค้าทุกคันต้องผ่านการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาที่บริเวณล้อรถ และจัดจุดเทียบส่งสินค้าที่บริเวณลานรับและกระจายสินค้า
นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในส่วนพนักงานมีการเฝ้าระวังโรคระหว่างการปฏิบัติงานของพนักงานและกระบวนการผลิตเดินหน้าโดยไม่หยุดชะงัก เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของพนักงานและผลิตภัณฑ์อาหาร รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพและคู่ค้าปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคตามมาตรฐานสากลให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดซัพพลายเชน
สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานในไลน์การผลิตต้องผ่านการคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่และจุดที่สัมผัสบ่อย รวมถึงเพิ่มการขนส่งด้วยระบบสายพาน เพื่อลดการสัมผัสของพนักงาน ตลอดจนจัดที่พักให้แรงงานต่างชาติอยู่ในหอพักและมีรถรับส่งจากที่พักถึงโรงงาน
นอกจากนี้ กำหนดให้มีพนักงานทำงานที่บ้านได้ตามความเหมาะสมของงาน และมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวดด้านสุขอนามัยทั้งห่วงโซ่การทำงานตั้งแต่ที่บ้าน การปฏิบัติตัวในระหว่างทำงาน การรับประทานอาหาร การรักษาระยะห่างทางสังคมและระยะห่างทางบุคคลอย่างเคร่งครัด โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ คือ การกรอกข้อมูลการเดินทางในแอพพลิเคชั่น CPF Connect เพื่อติดตามข้อมูลการเดินทาง
รวมทั้งให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายให้ถึงมือผู้บริโภคตามมาตรฐานความปลอดภัย โดย “ซีพี เฟรชมาร์ท” มีแนวทางบริหารจัดการร้านทุกสาขาให้ถูกสุขอนามัยและการใช้บริการลูกค้าอย่างเคร่งครัดในโครงการ “ซีพี เฟรชมาร์ท สะอาด ปลอดภัย รวมใจต้านโควิด-19”
ทั้งนี้ มีการกำหนดให้พนักงานในร้านต้องสวมหน้ากากอนามัยและสวมถุงมือระหว่างปฏิบัติงาน พร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณสัมผัสบ่อย เช่น ที่จับประตู โดยขอความร่วมมือลูกค้าทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน และส่งเสริมให้ลูกค้าใช้สั่งซื้อและชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ และการบริการส่งสินค้าถึงบ้าน โดยสถานการณ์โควิดที่กลับมาระบาดอีกครั้งขอให้คนไทยมั่นใจซีพีเอฟเป็นส่วนหนึ่งร่วมมือก้าวข้ามวิกฤติในฐานะ Good Corporate Citizen




