SKY - ซื้อเมื่ออ่อนตัว
สถานการณ์โควิด-19 ยังกดดันผลประกอบการ
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
- แจ้งผลประกอบการ 3Q20 หดตัว QoQ และ YoY
แจ้งงบ 3Q20 มีรายได้จากการดำเนินงานเท่ากับ 986.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +29.8% QoQ จากการรับรู้งานโครงการส่วนต่อขยายโครงขยาย IP Access Network ในพื้นที่ภาคกลางของ กฟภ.ระยะที่ 4 และงานโครงการคลาวด์ กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Service: GDCC) ของ CAT เป็นหลัก แต่หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้จาการดำเนินงานยังหดตัว -49.3%YoY เนื่องจากใน 3Q19 บริษัทได้มีการรับรู้งานโครงการจัดหาและติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตอล ระยะที่ 2 ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการสูง
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 14.1% ลดลงจาก 18.1% ใน 2Q20 ตามต้นทุนโครงการที่รับรู้ แต่หากเทียบกับ 3Q19 อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 12.0% เป็นผลมาจากกําไรขั้นต้นจากรายได้จากการขายสินค้าให้ภาคเอกชน และการให้บริการบํารุงดูแลรักษางานโครงการต่าง ๆ
ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้อยู่ที่ระดับ 10.7% ดีขึ้นจาก 13.6% ใน 2Q20 เนื่องจากมีการรับรู้งานที่ถูกเลื่อนมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และค่าตัดจําหน่ายสินทรัพย์สิทธิการใช้และ Software จากการลงทุนในอุปกรณ์ Network และ Wi-Fi รวมถึง Platform ต่าง ๆที่ทำร่วมกับ AOT แต่หากเทียบกับ 3Q19 สัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3.7% หลังควบรวมพนักงานบริษัท เรย์เทล จํากัด และการเพิ่มพนักงานทั้งในระดับผู้บริหาร วิศวกรและพนักงานปฏิบัติงานโครงการ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ Digital Platform ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ส่งผลให้ 3Q20 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ระดับ 23.2 ล้านบาท ลดลง -9.5%QoQ และ -86.9%YoY ทั้งนี้กำไรสุทธิ 9M20 อยู่ที่ระดับ 68.2 บาทบาท คิดเป็น 25.0% ของประมาณการทั้งปีของเรา
- ปรับลดประมาณการ หลังส่งมอบงานล่าช้ากว่าแผน
เราปรับลดประมาณการรายได้ปี 20-21 ลงราว -26.4% และ -14.9% เป็น 3,175.4 ล้านบาท และ 4,375.0 ล้านบาท พร้อมปรับลดกำไรสุทธิลง -62.6% และ -18.9% เป็น 101.9 ล้านบาท และ 257.9 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากบริษัทส่งมอบงานล่าช้ากว่าแผนและรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ได้เพียงบางส่วน จากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในปี 21 จะกลับสู่ระดับปกติได้อีกครั้ง โดยบริษัทได้เตรียมขยายงานภาคเอกชนอย่างเต็มตัว และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมการให้บริการ IT Solution ใหม่ ซึ่งเป็น Smart Security Platform แบบครบวงจร สำหรับตลาด B2B เป็นหลัก
- ปรับลดราคาเหมาะสมเป็น 60 บาท ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเมื่ออ่นตัว”
ภายใต้สมมติฐานประมาณการใหม่ ส่งผลให้เราปรับลดราคาเหมาะสมปี 21 เป็น 12.60 บาท (จากเดิม 15.60 บาท) ประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ PER +1SD ของหุ้นกลุ่ม ICT ย้อนหลัง 3 ปีที่ 30 เท่า ใช้ EPS Fully Diluted (รวมจ่ายหุ้นปันผลและ PP 40 ล้านหุ้น) เหลือ Upside จากปัจจุบันราว 7.7% ปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”