ซี.พี.แลนด์ฯเบรกลงทุนอสังหาฯปี64 หันผุดโรงแรมเล็ก5-10แห่งรับลูกค้าไทย

ซี.พี.แลนด์ฯเบรกลงทุนอสังหาฯปี64 หันผุดโรงแรมเล็ก5-10แห่งรับลูกค้าไทย

ซี.พี.แลนด์ฯ รับโควิดฉุดรายได้ลดกว่า 50% เผยแผนปี64 ชะลอการลงทุน คอนโด อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ เหตุตลาดหดตามกำลังซื้อ หันผุดโรงแรมขนาดเล็ก5-10แห่งทั่วประเทศพร้อมเดินหน้าลงทุนนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการลงทุนต่างชาติกลางปีหน้า

นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ภาพรวมของบริษัทปี2563ไม่ดี เนื่องจากได้รับผลจากโควิด-19โดยธุรกิจอสังหาฯ บ้าน คอนโดมิเนียม ซึ่งกระจายทั่วประเทศที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงล่างถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถานบันการเงินถึง30%  ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า อาทิ ซี.พี.ทาวเวอร์ 1 (สีลม) ผู้เช่าได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้ลดพื้นที่เช่าลงหรือบางส่วนเลิกเช่าเปลี่ยนไปให้พนักงานทำงานที่บ้านแทน ขณะเดียวกันศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าด้านไอที ได้รับผลจากการที่ผู้เช่าลดลงและบางส่วนบริษัทต้องลดค่าเช่าให้กับผู้เช่าตั้งแต่เดือนมี.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา แม้กระทั้งธุรกิจโรงแรมกลุ่มลูกค้าสายการบินหายไปเพราะไม่สามารถบินได้โดยเฉพาะโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียวฟอร์จูนลูกค้าลดลง 95% กรุงเทพ ส่งผลให้รายได้รวมลดกว่า 50% 


 "  วิกฤติครั้งนี้ทำให้บริษัทต้องปรับตัวจากเดิมที่เร่งสปีดในการลงทุนลดสปีดลงจากวิ่งเป็นเดินแต่ไม่ได้หยุดนิ่ง อะไรที่ประหยัดได้ต้องประหยัดเพราะรายได้ลดลง "


นายสุนทร  กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจในปี2564 หนักกว่าปีนี้ เพราะรายได้ของคนลดลงและจะฟื้นตัวอีกครั้งในปี2565ดังนั้นบริษัทจึงชะลอการลงทุนธุรกิจคอนโด อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เนื่องจากตลาดหดตามกำลังซื้อที่ลดลงถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ชะลอการลงทุน จาก2-3ปีที่ผ่านมาลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท  แต่ยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจโรงแรมที่มีความเชี่ยวชาญและบริษัทมีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งในแง่ของทำเลตั้งของโรงแรมที่กระจายไปอยู่ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ทำให้สามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยอาศัยความได้เปรียบในแง่ของกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมในเครือเป็นคนไทย 80-90%


" แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐที่ต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศระหว่างที่ยังไม่ได้เปิดน่านฟ้า จากมาตรการต่างๆ ที่ต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งการจัดงานสัมมนาของภาครัฐและเอกชนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ  จึงเป็นโอกาสของธุรกิจโรงแรมที่มีลูกค้าในพื้นที่ไว้รองรับการประชุมต่างๆ "

นายสุนทร  ระบุว่า ตามแผนบริษัทจะลงทุนเปิดโรงแรมขนาดเล็ก ระดับ2-3ดาวกระจายในระดับภูมิภาคทั้งหัวเมืองหลักและเมืองรอง จำนวน5-10 แห่งโดยใช้งบการลงทุนแห่งละ100 ล้านบาทที่มีการออกแบบที่เหมือนกันเพื่อให้เกิดอีโคโนมีออฟสเกลใการลงทุนก่อสร้าง จากที่ปีนี้บริษัทเปิดโรงแรม 2 แห่ง  คือ โรงแรม เดอะ คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ มูลค่า150ล้านบาท และ โรงแรม ฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง ในเครือฟอร์จูน กรุ๊ป มูลค่า200ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมกระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในจังหวัดเลย แม่สอด พิษณุโลก นครพนม เชียงของ เชียงราย และโคราช รวมทั้งสิ้น14 แห่ง

นอกจากนี้โครงการใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนสูง และเป็นธุรกิจในอนาคตที่จะสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มซี.พี.แลนด์ ในอนาคต คือโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี นั้น บริษัทยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง  โดยคาดว่าจะสามารถดึงนักลงทุนเข้ามาได้ในกลางปีหน้าในเฟสแรกที่ใช้เม็ดเงินลงทุน2,000ล้านบาท  แม้ขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และได้รับผลจากโควิด-19 แต่บริษัทมีหุ้นส่วนครึ่งหนึ่ง เป็นรัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งรัฐบาลจีนยังคงสนับสนุนโรงงานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ซึ่งนักลงทุนจีน แสดงความสนใจซื้อพื้นที่ตั้งโรงงานแล้ว เช่น กลุ่มโรงงานอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์อีวี ยางล้อรถยนต์ และอุตสาหกรรมวัสดุสมัยใหม่ เป็นต้น


ทั้งนี้ การลงทุนในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินงานโครงการนิคมอุตสาหกรรมซีพีจีซี ภายใต้การร่วมดำเนินงานกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พัฒนาในนามบริษัท ซีจี คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ซี.พี.แลนด์ และบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป ในเขต อ.บ้านค่าย และนิคมพัฒนา จ.ระยอง นั้นมีพื้นที่ 3,068 ไร่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในโครงการ ด้วยงบลงทุนกว่า 5,700 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2564 รองรับนักลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะจัดสรรพื้นที่ราว 2,205 ไร่ ใช้สำหรับเป็นเขตประกอบกิจการอุตสาหกรรม และพื้นที่ราว 112 ไร่ สำหรับเขตพาณิชยกรรม พื้นที่ระบบสาธารณูปโภค 440 ไร่ และพื้นที่สีเขียวราว 309 ไร่ คาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายราว 56,000 ล้านบาท