STGT - ซื้อ

STGT - ซื้อ

นํ้าขึ้นต้องรีบตัก

Event

ประชุมนักวิเคราะห์ และปรับประมาณการ

lmpact

ใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุดจากภาวะอุปทานถุงมือยางขาดแคลนทั่วโลก

ในภาวะที่ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทำสถิติสูงสุดใหม่รายวันอย่างต่อเนื่อง STGT เตรียมแผนไว้หลายแผนเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ในตลาดที่เอื้อต่อผู้ขาย แผนแรกคือ STGT ตั้งเป้าจะเพิ่มราคาขายเฉลี่ย (ASP) ขึ้นอีกอย่างน้อย 50.0% QoQ ใน 4Q63 หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้น 75.4% QoQ เป็น
US$36.3/พันชิ้น และจะส่งผ่านต้นทุนทั้งหมดที่อาจจะขยับเพิ่มขึ้นไปให้ลูกค้าใน 1Q64  แผนสองคือ STGT จะเร่งขยายกำลังการผลิต โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 5 หมื่นล้านชิ้น/ปี ภายในปี 2565 จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2566 ซึ่งจะสอดรับ backlog ของถุงมือยางไนไตรล์ (NBR) ที่จ่อคิวยาวไปจนถึง
กลางปี 2566 และของถุงมือยางธรรมชาติ (NR) ที่ยาวไปถึง 1Q65 ทั้งนี้ เราคาดว่าอุปสงค์ถุงมือยางทั่วโลกจะโต 17.6% CAGR ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จาก 3 แสนล้านชิ้นในปี 2562

ยังรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนเอาไว้ได้

ในขณะที่มีแนวคิดจะนำ windfall tax มาใช้กับผู้ผลิตถุงมือในมาเลเซีย STGT ก็อยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้ประโยชน์จากการที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ข้อแรก STGT ยังจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของไทยไปอีก 5-8 ปีจากการลงทุนในโรงงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ข้อสอง STGT ได้เงินอุดหนุนอัตราดอกเบี้ยจากการยางแห่งประเทศไทย (RAOT) ไปจนถึงปี 2569 เป็นอย่างน้อย ข้อสุดท้าย การอยู่ใกล้แหล่งผลิตวัตถุดิบทำให้ STGT ได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งนี้ ในขณะที่ ราคาน้ำยางไนไตรล์ (NBR latex) เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและกำลังการผลิตที่ไม่
เพียงพอ ทั้งนี้ STGT มั่นใจได้ว่าสามารถจัดหาน้ำยางข้น (concentrated latex) ได้จาก บริษัท ศรีตรังแอ โกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA.BK/STA TB)* ซึ่งเป็นบริษัทแม่

ปรับประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนถึง ASP ใหม่และแผนขยายกำลังการผลิต

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563-65 ขึ้นอีก 107.0%/87.3%/99.1% เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้ม ASP ที่เพิ่มขึ้น และการปรับแผนขยายกำลังการผลิตใหม่ โดยเราได้ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ในอีกสามปีข้างหน้าขึ้นอีก 21.3%-30.3% เนื่องจากเราปรับเพิ่มสมมติฐาน ASP ขึ้น 21.5%-23.2% และปรับสมมติฐานปริมาณยอดขายปี 2565 ขึ้นอีก 7.2% เพื่อสะท้อนถึงกำลังการผลิตใหม่

Valuation & Action

เมื่ออิงจากประมาณการใหม่ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2564F ใหม่ที่ 130.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0x เท่ากับ Top Glove Corp Bhd (TOPG) ซึ่งเป็นหุ้นที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันที่สุด เราคาดว่า STGT จะได้อานิสงส์จากวัฏจักรการเติบโตแบบ supernormal จากอุปสงค์ถุงมือยางที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ราคาหุ้นก็ยังจะได้อานิสงส์จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจากการแตกพาร์ และการนำหุ้นเข้าไปจดทะเบียนเพิ่มในตลาดหุ้นสิงคโปร์ (SGX) ด้วย (ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ STGT

Risks

ASP ต่ำเกินคาด, ผลิตวัคซีน COVID-19 จำนวนมากได้เร็วเกินคาด, และราคาวัตถุดิบสูงกว่าคาด