TU - ซื้อ

TU - ซื้อ

ปีหน้าบวกต่อ

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TU ในปี FY21F จาก (1) ความต้องการบริโภคอาหารทะเลแปรรูปที่ยังแข็งแกร่ง (2) ธุรกิจอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และ (3) ผลการดำเนินงานของ Red Lobster ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ปรับประมาณการกำไรปี FY20F และ FY21F ขึ้น 36% และ 27% เป็น 6.5 พันลบ.และ 6.7 พันลบ. ตามลำดับ คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ 19.60 บาทต่อหุ้น (จากเดิม 17.60 บาทต่อหุ้น)

 

กำไร 3Q20 ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด

TU รายงานกำไร 3Q20 อยู่ที่ 2.06 พันลบ. ดีกว่าคาดการณ์ของเราและตลาดราว 15% หนุนโดย (1) ยอดขาย 3Q20 เติบโต 9.3%yoy สู่ระดับ 3.48 หมื่นลบ. โดยเฉพาะการเติบโตที่แข็งแกร่งจากอาหารทะเลแปรรูป 8.7%yoy และ (2) ส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า 258 ลบ. เทียบกับส่วนแบ่งขาดทุน 579 ลบ. ใน 2Q20 ในขณะที่อัตรากำไร 3Q20 ยังทรงตัวที่ระดับสูง 18.2% เท่ากับใน 2Q20

 

มีมุมมองเชิงบวกในปี FY21F

ฝ่ายบริหารมองว่า COVID-19 จะยังมีผลกระทบต่อจนถึงปี FY21F ความต้องการบริโภคอาหารทะเลแปรรูปโดยเฉพาะทูน่ากระป๋องจะยังแข็งแกร่งต่อในปีหน้า ขณะที่ความต้องการอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากธุรกิจร้านอาหารกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของ Red Lobster มีแนวโน้มฟื้นตัวดีในปีหน้า หนุนโดยการประหยัดต้นทุนและยอดขายจากรูปแบบ off-premise (รอรับในรถและ delivery) เติบโตกว่า 3 เท่า ทั้งนี้หากรัฐบาลสหรัฐฯปรับเพิ่มภาษีนิติบุคคล จะมีผลเพียงเล็กน้อยต่อกำไรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนสะสมจำนวนมากพอที่สามารถที่จะใช้ลดภาษีได้

 

ปรับกำไร FY20F-21F ขึ้น 27-36%

FY20F-FY20F เป็น 6.5 พันลบ.และ 6.7 พันลบ.ตามลำดับ ตามการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 17.6% สำหรับปี FY20F (จาก 15.7%) และ 17.5% สำหรับปี FY21F (จาก 15.5%) นอกจากนี้เราปรับส่วนแบ่งขาดทุนบี FY20F เป็นขาดทุน 294 ลบ.(จาก 737 ลบ.) และส่วนแบ่งกำไร 181ลบ. สำหรับปี FY21F Zจาก 172 ลบ.) คงคำแนะนำ ซื้อ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสเป็น 19.60 บาทต่อหุ้น (จาก 17.60 บาทต่อหุ้น) ราคาเป้าหมายใหม่ของเราอิง 14 เท่า EPS ปี FY21F