‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ประเภทธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ประเภทธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

จับตา "สินทรัพย์ดิจิทัล" ประเภทธุรกิจที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ และผู้ได้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?

นับตั้งแต่ปี 2561 ที่ได้มีการออกพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ และมีผู้ได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐในการประกอบธุรกิจแล้วจำนวนหนึ่ง

ในปี 2563 นี้ ได้มีการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา บทความฉบับนี้ผู้เขียนจึงถือโอกาสนำเสนอข้อมูลในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว

  • การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบัน

ในบริบทของกฎหมายไทย สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) หมายถึง คริปโทเคอร์เรนซี (คริปโท) และโทเคนดิจิทัล (โทเคน) ดังนั้น พ.ร.ก.ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จึงมีวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโทและโทเคน ซึ่งได้แก่

1.ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) 2.นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) และ 3.ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer) ดังนั้น ก่อนการปรับปรุงหลักเกณฑ์ การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จึงประกอบไปด้วยธุรกิจหลักที่ได้กล่าวมาในข้างต้น

  • ประเภทธุรกิจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักทรัพย์

ในเชิงเปรียบเทียบ สังเกตได้ว่าประเภทธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่หลากหลายเท่ากับกรณีการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ กล่าวคือในการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ อาจมีผู้ประกอบธุรกิจอื่นๆ ในตลาด เช่น ธุรกิจที่ปรึกษาลงทุน ธุรกิจการจัดการกองทุน (ส่วนบุคคล/กองทุนรวม) และธุรกิจการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์

  • การกำหนดผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม

ดังนั้น ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดกิจการอื่นที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม จึงได้กำหนดเพิ่มประเภทของการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้รวมถึง“ธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” และ “ธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล” อย่างไรก็ดี หากเทียบกับธุรกิจหลักทรัพย์ จะเห็นได้ว่า ไม่ได้มีการเพิ่มเติม “ธุรกิจการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์” ในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

เนื่องจากโดยสภาพการเสนอขายโทเคนต้องเสนอขายผ่าน ICO Portal ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนที่ต้องได้รับอนุญาตในการประกอบธุรกิจจาก ก.ล.ต. ดังนั้น ICO Portal จึงทำหน้าที่จัดจำหน่ายหลักทรัพย์อยู่แล้ว ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าการให้บริการจัดจำหน่าย "สินทรัพย์ดิจิทัล” มีลักษณะที่แตกต่างกับ “หลักทรัพย์” ทั่วไปตรงที่เป็นการให้บริการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก 

  • เหตุผลในการเพิ่มเติมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

“ธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” เหตุผลหลักมาจากการที่ก่อนการปรับปรุงเกณฑ์ หากมีกองทุนส่วนบุคคลที่ประสงค์จะลงทุนใน Digital Asset เพียงประเภทเดียวทั้งกอง จะไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เนื่องจากกฎหมายยังไม่ได้เขียนระบุถึงการจัดการกองทุนส่วนบุคคลในลักษณะดังกล่าว ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจะอยู่ภายใต้เกณฑ์การกำกับเฉพาะกรณีที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกับหลักทรัพย์อื่นเท่านั้น (ซึ่งแตกต่างกับธุรกิจการจัดการกองทุนรวม ที่หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด สามารถลงทุนใน Digital Asset ได้) ดังนั้น การกำหนดประเภทธุรกิจนี้เพิ่มเติม จึงเป็นการปิดช่องว่างเดิมของกฎหมาย

สำหรับ “ธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล” มีเหตุผลในการเพิ่มเติมจากที่เดิมที่ไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งผลคือธุรกิจดังกล่าวทำได้อย่างเสรีปราศจากการกำกับดูแล และโดยสภาพ การให้คำปรึกษาในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมักกระทำผ่านช่องทางออนไลน์ จึงส่งผลให้เกิดการให้ข้อมูลในลักษณะที่ไม่ได้ส่งถึงบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจง

แต่ประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงระบบหรือช่องทางออนไลน์สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เผยแพร่ออกไปในวงกว้าง และอาจนำมาสู่ความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนในเรื่องของมูลค่าและความเหมาะสมในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆ

ดังนั้น การเพิ่มเติมผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล จึงกำหนดนิยามและแนวทางในการทำธุรกิจในลักษณะเดียวกันกับการกำกับที่ปรึกษาการลงทุนในธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติการขอรับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ “ธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” และ “ธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล” จะเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการขอรับใบอนุญาตธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ ด้วย

  • ข้อสังเกตเพิ่มเติมต่อกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงิน

จากการเพิ่มเติมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของประกาศกระทรวงการคลังฉบับนี้ ก็อาจมีผลต่อหนังสือเวียน เรื่องแนวทางการประกอบธุรกิจดิจิทัล ของสถาบันการเงินและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงินที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือน ส.ค.2561 กล่าวคือ ในหนังสือเวียนฉบับดังกล่าว ธปท.ได้กำหนดห้ามสถาบันการเงินระดมทุนในรูปแบบ ICO Issuer หรือให้บริการระบบ ICO Portal รวมถึงห้ามไม่ให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1.ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) 2.นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) และ 3.ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Dealer)

อย่างไรก็ดี หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวไม่ได้ห้ามบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงินที่มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ (เช่น บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทประกัน ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจของธนาคาร) ในการที่จะเป็น ICO Issuer, ICO portal, Exchange, Broker และ Dealer

ดังนั้น เมื่อมีการปรับเกณฑ์เพื่อเพิ่มเติมผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ให้รวมถึงธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล ก็อาจเปิดช่องทางให้ ธปท.ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในหนังสือเวียนฉบับดังกล่าวเพื่อเพิ่มโอกาสให้กลุ่มธุรกิจของสถาบันการเงินสามารถประกอบ "ธุรกิจผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” และ “ธุรกิจที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล” ได้

ท้ายที่สุด ผู้เขียนเชื่อว่าการเพิ่มเติมประเภทธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในครั้งนี้เป็นการปรับปรุงกฎหมายให้ครอบคลุมและปิดช่องว่างสำหรับธุรกิจที่เคยอยู่นอกเหนือการกำกับ ให้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและเหมาะสม อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและนักลงทุนในที่สุด

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน