MAKRO - ถือ

MAKRO - ถือ

ดีนะแต่ไม่ถูก

เราคาดว่า MAKRO จะรายงานกำไร 1.6 พันลบ. (+9% yoy) การเพิ่มขึ้น yoy เกิดจากอัตรา EBIT ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.2% (+30 bps yoy) จาก SSSg เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% yoy (หลักๆมาจากอาหารสด) และมาตรการประหยัดต้นทุนต่อเนื่องช่วยรักษาระดับ SG&A ที่ 8.2% (-55 bps yoy) ปรับประมาณการกำไรปี 20F-22F ขึ้น 1.6-3.7% จาก SSSg ที่แข็งแกร่งยังคงดำเนินต่อไป เราคงคำแนะนำ ถือสำหรับ MAKRO จากกำไรที่แข็งแกร่งได้รวมเข้าไปในราคาแล้วจากการที่หุ้นซื้อขายกันที่ระดับ 27เท่า PE (5-yr 21F PE)

 

เราคาดว่ากำไร 3Q20F จะอยู่ที่ 1.6พันลบ. จากยอดขายอาหารยังอยู่ในระดับที่ดี

คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 9% yoy และ 37% qoq นอกจาก SSSg ที่แข็งแกร่ง (+3.5% yoy) เราเชื่อว่าการเติบโตของกำไร yoy เป็นผลมาจากการนโยบายการประหยัดต้นทุนต่อเนื่อง (เช่น โปรโมชั่น, บุคลากรและค่าใช้จ่ายจูงใจ) หนุนอัตรา EBIT ขึ้นสู่ 4.2% (+30 bps yoy) และรักษา SG&A ต่อยอดขายที่ 8.2% (-55 bps yoy)

 

การฟื้นตัวของยอดขายในภาพรวม จากอาหารสดมีผลประกอบการทีดี

เราคาดว่ารายได้จะอยู่ 53,603ลบ. (+6% yoy, +5% qoq) การเพิ่มขึ้น yoy ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของยอดขายอาหาร (โดยเฉพาะอาหารสด) จาก 1). รายได้จากผู้ซื้อรายย่อยยังงคงที่จะมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง จากการที่เป็นสถานที่ที่สะอาดกว่าตลาดสด 2). ยอดขาย HoReCa พลิกเป็นบวกเล็กน้อยในกันยายน

 

ปรับกำไรปี 20-22F ขึ้น 1.6-3.7% จาก SSSg ที่ดีขึ้น

เราปรับประมาณการ SSSg ปี 20F ขึ้นสู่ 2.5% (+150 bps) จาก SSSg ที่ยังคงเป็นบวกได้ใน 2H20 ปัจจัยหนุนสำคัญของ SSSg ที่เพิ่มขึ้นเกิดจาก การฟื้นตัวที่เร็วกว่าคาดของลูกค้า HoReCa และยอดขายอาหารสดที่แข็งแกร่ง

 

คงคำแนะนำ ถือ valuation ค่อนข้างแพงแล้ว

เราคงคำแนะนำ ถือ สำหรับ MARKO จาก valuation ในปัจจุบัน (ซื้อขายที่ระดับ 27เท่าของ PE ปี 21F ที่ค่าเฉลี่ยตัวคูณ 5ปี) ได้รวมปัจจัยหนุนจาก SSSg ที่แข็งแกร่งจากบริษัทในระยะสั้น SSSg ของ MAKRO จะยังคงอยู่ในแดนบวกแม้ว่าจะมีการบริโภคภาคเอกชนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ จากยอดขายส่วนใหญ่อยู่ในสินค้าจำเป็น พร้อมมาตรฐานความสะอาดที่ดีกว่าและสินค้าประหยัดต้นทุนสำหรับลูกค้า HoReCa เราคาดว่า MAKRO จะประกาศผลประกอบการภายในวันที่ 10 พ.ย.