KCE - ซื้อ

KCE - ซื้อ

ประมาณการ 3Q63: ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

Event

เราคาดกำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q63 ที่ 186 ล้านบาท (-14% YoY, +161% QoQ) จากยอดขายฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ซึ่งทำให้อัตรากำไรดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด ส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักใน 9M63 อยู่ที่ 604 ล้านบาท (-9% YoY) และคิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

lmpact

ยอดขายฟื้นตัวจากฐานที่ตํ่าใน 2Q63

จากฐานยอดขายที่ต่ำใน 2Q63 เพราะเป็นช่วงที่มีการ lockdown ทั่วโลก ยอดขายมีแนวโน้มเติบโต QoQ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เราคาดว่ายอดขายของ KCE จะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (-20%YoY แต่ +16% QoQ) แต่หากไม่รวมผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายใน 3Q63 จะอยู่ที่ 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-23%YoY แต่ +17% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามเป้าของผู้บริหาร และสอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของยอดจดทะเบียนรถยนต์ในยุโรปที่อยู่ในช่วง 13% ถึง 115% MoM ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 (Figure 3) ทั้งนี้ ยอดขายในไตรมาสที่สามจะทำให้ยอดขายในงวด 9M63 อยู่ที่ 251 ดอลลาร์สหรัฐ (-16% YoY) คิดเป็น 72% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 350 ดอลลาร์สหรัฐ

คาดว่าอัตรากำไรจะดีขึ้น

เราคาดว่า GPM ใน 3Q63 จะเพิ่มขึ้นเป็น 22.9% (+2.3ppts YoY และ +4.8ppts QoQ) เนื่องจาก i) เกิดการประหยัดต่อขนาดเพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น (จาก ~60% ใน 2Q63 เป็น ~70% ใน 3Q63 ซึ่งทำให้ GPM เพิ่มขึ้น ~5% QoQ) ii) ต้นทุนทองแดงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เพราะบริษัทได้ต่อรองราคาวัตถุดิบกับ supplier ในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M63 อยู่ที่ 22.1% (+1.8ppts YoY) ใกล้เคียงกับสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 22.0%

ผลประกอบการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน 4Q63

ถึงแม้ว่าตามปกติแล้วยอดขายในไตรมาสที่สี่จะต่ำกว่าในไตรมาสที่สาม แต่เราคาดว่ายอดขายใน 4Q63 จะสูงกว่า 3Q63 เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์กลับมาเปิดดำเนินการเต็มที่หลังมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown และมีใช้สต็อกเก่าไปหมดแล้ว ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ KCE จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ ในไตรมาสที่สี่ และยังคงประมาณการกำไรปี 2563-64 เอาไว้เท่าเดิม

Valuation & Action

ถึงแม้ว่าราคาหุ้น KCE จะเหลือ upside ไม่มากเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ของเราที่ 35.00 บาท ซึ่งอิงจาก PER ที่ 30.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต +1.25 S.D.) เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" KCE เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังมี upside อีกจากทั้งด้านยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้น (จากการขยับไปขายสินค้าที่ margin สูง)

Risks

ภัยธรรมชาติ มีการปิดโรงงานนอกแผน ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น วัตถุดิบขาดแคลนและเงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2563-64 ที่ 31.90 บาท/US$)