โควิดฉุดรายได้ ‘ท่องเที่ยว’ ดิ่ง ‘กรุงไทย’ แนะธุรกิจเร่งปรับตัว

โควิดฉุดรายได้ ‘ท่องเที่ยว’ ดิ่ง  ‘กรุงไทย’ แนะธุรกิจเร่งปรับตัว

ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย คาดรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ลดลง 70% เหลือเพียง 9.1 แสนล้าน  จากปี 62 ที่ 3.02 ล้านล้าน เหตุ โควิดระบาด ส่วนปีหน้าเพิ่มเป็น 1.24 ล้านล้าน  แต่ยังหดตัว 59% จากปี 62  พร้อมแนะภาคธุรกิจท่องเที่ยวปรับตัว

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย ประเมินรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้จะหดตัวถึง 70% หรือหดตัว 2.1 ล้านล้านบาท เหลือเพียง 9.1 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่  3.02 ล้านล้านบาท ก่อนที่โควิด-19  และในปี 2564 ประเมินว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเล็กน้อย มาอยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท ยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดถึง 59%

ทั้งนี้เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากปี 2562 อยู่ที่ 39 ล้านคน เหลือเพียง 6.8 ล้านคนในปีนี้ และในปีหน้าการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นไปอย่างจำกัดและเฉพาะกลุ่ม ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจอยู่ที่ 7.6 ล้านคน

ส่วนทางด้านปัจจัยเสี่ยงต่อการท่องเที่ยวของไทยที่ต้องติดตาม คือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 27 ล้านคนทั่วโลก ส่งผลให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงัก และแม้วัคซีนจะค้นพบในต้นปี 2564 แต่จะผลิตและกระจายทั่วถึง คงเป็นช่วงปลายปีหน้า

อย่างไรก็ดีถึงจะมีวัคซีนก็ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ในทันที เนื่องจากผู้ได้รับวัคซีนยังอาจติดโรคและเป็นพาหะได้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวในปีนี้และปีหน้า ทั้งหมดยังคงเป็นความเสี่ยงหลักอยู่

ขณะเดียวกันมีความเสี่ยงทางอ้อม จากการกลับมาระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 ในหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศคู่ค้ากับไทย อาจทำให้หลังจากนี้การส่งออกของไทยชะลอตัวลงได้ โดยในเดือนส.ค.นี้ เริ่มเห็นหลายประเทศคู่ค้าของไทยเริ่มหมดโมเมนตัม หลังจากในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้นหรือติดลบน้อยลงเมื่อเทียบเดือน มิ.ย.

อย่างไรก็ตามฝั่งของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่า ยังจับตามาตรภาครัฐ โดยเฉพาะมาตรการเปิด Travel Bubble จะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน และยังขึ้นกับอีกหลายปัจจัย โดยเฉพาะการควบคุมโรค ที่ยังคงมีความสำคัญมากและเป็นโจทย์หลักของรัฐบาล เพราะตอนนี้ในหลายประเทศมีการระบาดโควิด-19 ระลอก 2

นายพชรพจน์ กล่าวว่า โจทย์หลักของภาคเอกชน หลังจากนี้ ต้องมีการปรับตัวตามกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและการใช้จ่ายของลูกค้าในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก และต้องตีโจทย์ในยุค New Normal ให้ได้ โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยในช่วงก่อนโควิด ที่เคยมีเพียง 36% จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 70% ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากคนไทยที่เคยเที่ยวนอกกว่า 12 ล้านทริป ที่อาจกลับมาเที่ยวไทยได้ถึงประมาณ 14 ล้านทริปในปีหน้า เนื่องจากการเที่ยวในประเทศ สามารถเที่ยวได้บ่อยกว่าและใช้วันน้อยกว่า

นายกิตติพงษ์ เรือนทิพย์ นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า ใน New Normal พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยเปลี่ยนไป โดยมีแนวโน้มเลือกเที่ยวในประเทศก่อน เพราะความเสี่ยงในการติดเชื้อในต่างประเทศยังสูงกว่าเที่ยวในประเทศ โดยเที่ยวใกล้ๆ สั้นๆ ขับรถไป ซึ่งอัตราการเข้าพัก (OR) ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าจังหวัดที่มีค่า OR กลับมาสูงกว่า 50% ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เช่น เพชรบุรี และกาญจนบุรี