อาร์ซีดีปั้นฮับเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เปิดเกมรุกรีเทล
อาร์ซีดี ดีไซน์ เซ็นเตอร์ สวนวิกฤติโควิด เสริมทัพ 5 โกลบอลแบรนด์รับดีมานด์ลูกค้าทำครัวที่บ้านมากขึ้น ปั้น “ฮับ" เฟอร์นิเจอร์ชุดครัว ขยายตลาดรีเทล ชู “แฮคเกอร์” แยกโชว์รูม เร่งขยายฐานเจาะกลุ่มกลาง-บน
นายกิตติ เริ่มเจริญดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ซีดี ดีไซน์เซ็นเตอร์ จำกัด (RCD Design Center) หรือ อาร์ซีดี (RCD) ผู้ผลิตและนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว กล่าวถึงแผนธุรกิจว่า จะผลักดัน อาร์ซีดี โชว์รูม ยกระดับสู่ "ฮับ" ของเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นโอกาสจากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภค หรือ ลูกค้ารายย่อยหันมาให้ความสำคัญกับการทำครัวในบ้านมากขึ้น
อาร์ซีดี จึงเล็งเห็นช่องทางในการขยายสู่ตลาดรีเทล จัดสรรงบประมาณปรับปรุงโชว์รูมรองรับการนำเข้า 5 แบรนด์ระดับโลก จาก 3 ประเทศ เพื่อตอบโจทย์ทุกดีไซน์ และครอบคลุมครบทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมเพิ่มงบประมาณด้านการตลาดออนไลน์สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรายย่อย
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดชุดครัวในประเทศไทย มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาอาร์ซีดี จับกลุ่มลูกค้าในตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเป้าหมายหลัก ลูกค้ารีเทลเป็นกลุ่มเป้าหมายรอง
"ปีนี้เราเน้นพยุงตัวไปตามสถานการณ์เพื่อรักษายอดขายให้มีระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาให้ได้มากที่สุด ขณะที่แผนระยะยาว 5 ปีข้างหน้า ยังคงมุ่งขยายตลาดในกลุ่มกลางและบนให้กว้างขึ้น ด้วยการเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย และตอบโจทย์เรื่องราคาที่สมเหตุสมผล”
อาร์ซีดี ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชุดครัวจากเทคโนโลยีทันสมัย และนำเข้าสินค้าชุดครัวจากแบรนด์เวิลด์คลาส มากว่า 50 ปี มีความพร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญ และบริการหลังการขายครบวงจร ล่าสุดนำเข้า 5 แบรนด์จากอิตาลี 3 แบรนด์ ได้แก่
วาลคูซีเน่ (Valcucine) เครื่องครัวที่มีการผสมผสานระหว่างองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และงานดีไซน์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นได้ชื่อว่าเป็นมาสเตอร์กลาส (Master of Glass)
ซีซาร์ (Cesar) โดดเด่นเรื่องงานดีไซน์
ชไนเดโร่ (Snaidero) แบรนด์ชุดครัวทุกสไตล์มีให้เลือกอย่างครอบคลุม ตอบโจทย์ทุกความต้องการทุกกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ระดับกลางถึงไฮเอนด์ โดยมีดีไซเนอร์ชื่อดังมาร่วมออกแบบแต่ละคอลเลกชั่น เช่น Pininfarina ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ผู้ออกแบบรถยนต์เฟอร์รารี
แฮคเกอร์ (Häcker) แบรนด์สัญชาติเยอรมัน มีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยได้รับตราประทับรับรองจาก Puresist-Water Protection System ว่าเป็นตู้ครัวที่ป้องกันความชื้นในทุกส่วน มีหน้าบานให้เลือกหลากหลาย เป็นที่นิยมของโครงการอสังหาริมทรัพย์ลักชัวรี ซึ่งจะมีพื้นที่โชว์รูมแยกเฉพาะสำหรับแบรนด์แฮคเกอร์
สุดท้ายแบรนด์ คลีนอัพ (Cleanup) ครัวสเตนเลสสตีลจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยวัตกรรมโครงสร้างผลิตจากสเตนเลสสตีล ผนวกเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะทำให้ชุดครัวมีความคงทนสูง อายุใช้งานเฉลี่ย 30 ปี
พร้อมกันนี้วางแผนการตลาดเชิงรุกโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้ามาจากช่องทางออนไลน์ 50% เช่น ยูทูป เฟซบุ๊ค และช่องทางอื่นๆ อีก 50% อาทิ การจัดงานอีเวนท์เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมสินค้า ในส่วนของการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในกัมพูชาทำตลาดสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 20 ล้านบาท เป็น 40 ล้านบาท นอกจากนี้มีแผนขยายตลาดไปยังประเทศ ลาว และเมียนมา อีกด้วย
บริษัทมั่นใจว่าจะผลักดันยอดขายในกลุ่มลูกค้ารีเทลแตะ 500 ล้านบาทภายในปี 2565 สำหรับในปีนี้จากสถานการณ์โควิด คาดว่ารักษายอดขายเทียบเท่าปีก่อนที่ 800 ล้านบาท