OSP - ซื้อ

OSP - ซื้อ

พร้อมเข้าสู่บทใหม่

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

lmpact

ส่วนแบ่งตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่ COVID-19 ระบาด

ในขณะที่มูลค่าตลาดโดยรวมลดลงเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงในช่วงที่มีการใช้มาตรการ lockdown แต่ผลิตภัณฑ์ของ OSP ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ในประเทศไทยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 55.6% ในเดือนมิถุนายน 2563 ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดของ C-Vitt ซึ่ง
เป็นเครื่องดื่ม functional drink หลักของบริษัทก็ทำสถิติใหม่ที่ 33.9% ใน 2Q63 โดยมียอดจำหน่ายถึง 99 ล้านหน่วย สำหรับสินค้าในกลุ่มของใช้ส่วนตัว Baby Mild ยังคงเป็นแบรนด์ระดับแนวหน้าของสบู่เหลวสำหรับเด็ก

กำลังการผลิตใหม่จะหนุนการเติบโตใน 2H63

OSP เปิดเผยว่ากำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% จากหลายปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยแรกคือ OSP ได้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก Calpis Osotspa ซึ่งบริษัทซื้อเข้ามาในเดือนมกราคม 2563 ปัจจัยที่สอง โรงงานเครื่องดื่มใหม่ในอยุธยาเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 ปัจจัยที่สาม
โรงงานบรรจุเครื่องดื่มในเมียนมาร์เริ่ม COD ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 และปัจจัยสุดท้ายคือ OSP ได้ดำเนินโครงการ Total Productive Maintenance (TPM)

คาดว่า C-Vitt จะเป็นตัวนำการเติบโต

เราเชื่อว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะถูกใช้เพื่อผลิต C-Vitt โดยกำลังการผลิตของเครื่องดื่ม functional drink นี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2561 และมีการทำ debottleneck ในปี 2562 (ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 10%-15%) เนื่องจากอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ทั้งนี้ OSP ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขาย CVitt เท่าตัว YoY เป็น 4 พันล้านบาทในปีนี้ ซึ่งหมายความยอดขาย C-Vitt ใน 2H63 จะมากกว่า 100% HoH ใน 2H63

Valuation & Action

ใน 2H63 เราคาดว่า OSP จะโตจาก i) การขยายโรงงาน ii) การบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการ lockdown เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 อิงวิธี PER ที่ 49.00 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 45.50 บาท ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ OSP

Risks

ประหยัดต้นทุนได้น้อยกว่าที่คาดไว้ เสียส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไปให้คู่แข่ง GPM ของธุรกิจเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด