A-Share ขุมทรัพย์แห่งแดนมังกร

A-Share ขุมทรัพย์แห่งแดนมังกร

หุ้น "A-Shares" นับว่า เป็นตลาดที่มีศักยภาพโดดเด่นที่สุดในขณะนี้ ที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและนโยบายต่างๆ ขณะที่รายได้มากกว่า 90% ของบริษัทในตลาดนี้มาจากการบริโภคภายในประเทศจีน ดังนั้นรายได้ของบริษัทในตลาด

หุ้น A-Shares จึงได้รับผลกระทบน้อยจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

สำหรับหุ้น A-shares จะเป็นตัวแทนของหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น โดยจะมีเพียงนักลงทุนสัญชาติจีนและนักลงทุนสถาบันประเภทพิเศษเท่านั้นที่สามารถลงทุนได้ โดยความน่าสนใจคือ ความหลากหลายของบริษัทที่มีมากกว่า 3,500 บริษัท

ที่สำคัญ MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก ได้ประกาศเพิ่มหุ้นจีน A-Shares เข้าสู่การคำนวณดัชนีหุ้นโลก และสร้างดัชนีหุ้นจีน A-Share โดยเฉพาะที่เรียกว่า MSCI China A Onshore Index จึงมีกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าลงทุนใน A-Shares และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต

ดังนั้น ในยามนี้ “ตลาดหุ้น A-Share” เปรียบเสมือนเป็นขุมทรัพย์แดนมังกร ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หลายแห่ง ต่างออกกองทุนใหม่เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสการลงทุนในรอบนี้

สำหรับกองทุนหุ้นจีนน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดขาย IPO เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาอย่าง กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี ไชน่า อิควิตี้(MCHINA) มีความน่าสนใจ ด้วยจุดเด่นของกองทุนหลักที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ กองทุน Allianz China A-Shares บริหารจัดการโดย Allianz Global Investor GmbH ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนที่มีความชำนาญในบริหารจัดการกองทุน พร้อมด้วยทีมงานวิจัยภาคสนามที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเน้นลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ที่มีคุณภาพดี (Quality) เติบโตสูง (Growth) และมีมูลค่าที่เหมาะสม (Valuation) 

นอกจากนี้กองทุนนี้ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม China Equity

กองทุน MCHINA คัดเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ บริษัทในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศจีน เช่น ธุรกิจการบริโภคและสินค้าแบรนด์เนม, ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ หรือกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐอย่าง วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร รถยนต์ ไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ

โดยกองทุนหลัก Allianz China A-Shares มีสัดส่วนการลงทุน 5 อันดับแรก (ณ 30 เม.ย. 2563) ได้แก่ CITIC SECURITIES CO-A 4.10%, JIANGSU HENGU HYDRAUUC C-A 4.02%, LUXSHARE PRECISION INDUSTR-A 3.44%, SHANXI XINGHUACUN FEN WINE-A 3.43% และ WULIANGYE YIBIN CO LTD-A 3.42%

ขณะที่ผลตอบแทนกองทุนหลัก Allianz China A-Shares ณ 30 มิ.ย. 2563 (YTD) อยู่ที่ 17.11%, ช่วง 3 เดือนย้อนหลังทำได้ 26.80%, ช่วง 6 เดือนย้อนหลังทำได้ 17.11%, ช่วง 1 ปีย้อนหลังทำได้ 37.76% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนทำได้ 52.02% สามารถชนะผลตอบแทน MSCI China A ในทุกช่วงเวลา ซึ่งมีผลตอบแทน 4.68%,15.96%, 4.68%, 12.19% และ 18.54% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม กองทุน MCHINA มีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่ต้องระวัง เช่น การลงทุนกระจุกตัวเฉพาะในจีน ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย และไม่เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นการได้รับผลตอบแทนในจำนวนเงินที่แน่นอนหรือรักษาเงินต้นให้อยู่ครบแต่เหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน ซึ่งอาจจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้

สำหรับค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุน MCHINA แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 1.74% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน 1% ต่อปี ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุน อยู่ที่ 10.6934 บาทต่อหน่วย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 833.83 ล้านบาท. (ณ 22ก.ค. 2563) นโยบายของกองทุนมีการเงินปันผล

แม้ปีนี้ตลาดหุ้นจีนจะทำนิวไฮต่อเนื่องแต่ก็มีบางจังหวะตลาดปรับฐานลงมา นับเป็นโอกาสที่นักลงทุนเข้าสะสมหุ้น A-Share เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตลาดหุ้นจีนสามารถทนทานต่อปัจจัยลบที่เข้ามากดดันได้ดีระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว