ระยะสั้นผันผวน แม้ความเคลื่อนไหวของเฟดเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง

ระยะสั้นผันผวน แม้ความเคลื่อนไหวของเฟดเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง

เฟดคงดอกเบี้ย ระยะสั้นอาจมีแรงทำกำไร แต่เป็นบวกในระยะกลาง

ทั้งนี้ตลาดหุ้นอาจตอบรับเชิงลบในระยะสั้นจาก 1) ระดับการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่เริ่มชะลอตัวลง 2) คาดการณ์เศรษฐกิจ ทั้งคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ -6.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นเป็น +5% ในปีหน้า และอัตราการว่างงานที่คาดว่าจะอยู่มที่ระดับ 9.3% ก่อนที่จะลดลงเหลือ 5.5% และ 5.5% ในปี 2564-65 อย่างไรก็ตาม ภาพระยะยาวที่ยังคงเป็นบวก คือ การคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00-0.25% และจะตรึงจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะฟื้นตัว (หรือจนถึงปี 2565 หากพิจารณาจาก Dot plot) โดยถ้อยแถลงที่เป็นบวกที่สำคัญคือการที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ บอกว่าเฟดไม่คิดแม้แต่คะคิดว่าควรขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่? อีกทั้งการยืนยันว่าจะไม่ใช้ดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะจำกัดเงินที่วิ่งเข้าสู่ตราสารหนี้ และทำให้สภาพคล่องจำนวนมากต้องหาที่ไปที่มีผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และทำให้หุ้นยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ดังนั้นแม้มีความผันผวนระยะสั้น แต่ก็ต้องเผื่อมุมมองที่ตลาดหุ้นอาจดีกว่าคาด และดีกว่าภาวะเศรษฐกิจ

ไทยเตรียมผ่อนคลายระยะ 4 หลังไม่พบผู้ป่วยในประเทศ 16 วันติดต่อกัน คาดจะมีการเสนอให้ศบค.อนุญาตให้ธุรกิจ 3 กลุ่มกลับมาดำเนินการ ได้แก่ โรงเรียน, โรงแรมและศูนย์ประชุมสัมมนา, สถานรับเลี้ยงเด็กและคนชรา ขณะที่มีแนวโน้มทดลองยกเลิกการจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ตั้งแต่ 15 มิ.ย. แต่ยังคงพ.ร.กฉุกเฉิน แม้การดำเนินการข้างต้นเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่หุ้นในกลุ่มเปิดเมือง (re-opening play) ฟื้นตัวขึ้นมาสะท้อนปัจจัยบวกพอสมควรแล้ว ขณะที่ยังมีปัจจัยฉุดเฉพาะตัวเรื่องการเพิ่มทุน รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 2/63 และการฟื้นตัวที่อาจล่าช้าเพราะพึ่งพิงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ยังคงระวังการไล่ราคาหุ้นท่องเที่ยวจากจุดนี้

มุมมองของเราเกี่ยวกับหุ้นพลังงาน/ปิโตรเคมี แม้ตลาดให้น้ำหนักกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ที่ดีขึ้น เป็นบวกกับการเก็งกำไรในช่วง มิ.ย.-ก.ค. แต่เป็นเพียงการเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนเท่านั้น และการปรับขึ้นเป็นโอกาสลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่นและสำรวจและผลิต ขณะที่กลุ่มที่เป็นบวกยังเป็น ปิโตรเคมี ปั๊มน้ำมัน บรรจุภัณฑ์ และยางมะตอย

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว 1400-1450 จุด โมเมนตัมชะลอลงและเสี่ยงต่อการพักฐานระยะสั้น และจะพลิกเป็นลบหากหลุด 1385 จุด ทั้งนี้การเก็งกำไรควรคุมความเสี่ยงด้วยการตั้งขาดทุนทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  STA*, CPF*, WHAUP*

แนวรับ 1,405/ แนวต้าน : 1,432 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

 

ประเด็นการลงทุน

เฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยยาวถึงปี 2565 ขณะที่เพิ่มวงเงิน QE – ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.00-0.25% จนถึงปี 2565 และจะยังคงเพิ่มการถือครองพันธบัตรตามมาตรการ QE ผ่านการซื้อพันธบัตรวงเงิน $8 หมื่นล้าน/เดือน

ECB เตรียมตั้ง Bad Bank รับมือหนี้เสีย ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB เตรียมตั้ง Bad Bank จัดการหนี้เสียหลายแสนล้านยูโรจากพิษ Covid-19 โดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องบรรดาธนาคารพาณิชย์จากผลกระทบรอบสองของวิกฤต Covid-19

IMF เตรียมหั่น GDP เอเชียแปซิฟิก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เล็งปรับลดคาดการณ์ GDP กลุ่มเอเชียแปซิฟิกปลายเดือนนี้เพื่อสะท้อนผลกระทบจากมาตรการ Lockdowns ที่นานกว่าคาด

กกร.คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 – กกร.คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ตามเดิม โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยอาจหดตัวในกรอบ -5.0% ถึง -3.0% ส่งออกคาดหดตัว -10.0% ถึง -5.0% ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อคาดอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง 0.0%

 

ประเด็นติดตาม: 17 มิ.ย. – OPEC Monthly Report/ 24 มิ.ย. - ประชุม กนง.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)