ธนารักษ์เล็งผ่อนปรนค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์

ธนารักษ์เล็งผ่อนปรนค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์

กรมธนารักษ์เล็งเลื่อนระยะเวลาการจ่ายหรือลดค่าเช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ หลังผู้ประกอบการยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขผู้เช่ายังคงการจ้างงานพนักงาน มั่นใจไม่กระทบรายได้ทั้งปี

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า กรมฯกำลังพิจารณาผ่อนปรนการเลื่อนระยะเวลาการจ่ายค่าเช่าหรือการลดค่าเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ผู้ประกอบการที่เช่าดำเนินการเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ผ่อนปรนเลื่อนระยะเวลาการจ่ายค่าเช่าออกไป 1 ปี เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)

“ขณะนี้ เราได้ผ่อนปรนโดยเลื่อนระยะเวลาการจ่ายค่าเช่าให้แก่ผู้ประกอบการที่เช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ออกไป 1 ปี แต่สถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ประกอบการขอผ่อนปรนเกณฑ์ดังกล่าวออกไปอีก ทั้งการลดค่าเช่า และ การเลื่อนระยะเวลาการจ่าย ซึ่งเราก็อยู่ระหว่างการพิจารณา”

ทั้งนี้ แนวทางการผ่อนปรนเกณฑ์ค่าเช่าต่างๆนั้น ทางกรมฯอาจจะทำภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ผู้ประกอบการจะต้องยังคงอัตราการจ้างงานไว้ เพื่อช่วยเหลือแรงงาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลัง เช่น ถ้าจะลดอัตราค่าเช่าให้ 50% จะต้องคงการจ้างงานไว้ทั้งหมด เป็นต้น

สำหรับค่าเช่าที่ราชพัสดุสำหรับที่อยู่อาศัยและเช่าเพื่อการเกษตรนั้น กรมฯได้ยกเว้นอัตราค่าเช่าให้เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งกรมฯก็พร้อมพิจารณาผ่อนปรนให้อีก หากสถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้เช่าดังกล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบัน กรมฯมีรายได้จากค่าเช่าที่ราชพัสดุรวมประมาณ 8 พันล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นรายได้จากการให้เช่าเชิงพาณิชย์ 75% และ 25% เป็นการให้เช่าเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย

เขากล่าวด้วยว่า จากการผ่อนปรนอัตราค่าเช่าดังกล่าวจะทำให้กรมฯได้รับผลกระทบทางด้านรายได้ในปีนี้ แต่กรมฯเชื่อว่า ทั้งปี สถานการณ์รายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กว่า 8.7 พันล้านบาท โดยจะจัดเก็บได้ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยกรมฯมีแผนจะหารายได้จากการเปิดประมูลที่ดินเชิงพาณิชย์ต่างๆและรวมถึง การนำที่ราชพัสดุที่ได้จากการยึดโดยนิติเหตุออกประมูลขาย

“กรมฯมีมาตรการรองรับรายได้ที่จะหายไป เช่น การเร่งเปิดประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษไม่ว่าจะเป็นหนองคาย มุกดาหาร หรือเปิดประมูลพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น สนามกอล์ฟบางพระ รวมถึง การเร่งจำหน่ายที่ดินที่ยึดได้จากคดีตามกฎหมายฟอกเงิน กฎหมายยาเสพติด ฉะนั้น ก็เชื่อว่า จะมีรายได้เข้ามาชดเชย รายได้ที่หายไปจากการผ่อนปรนเกณฑ์ค่าเช่าที่ราชพัสดุดังกล่าว”

ทั้งนี้ สำหรับการเปิดประมูลที่ดินที่ได้จากการยึดโดยนิติเหตุนั้น กรมฯจะเริ่มประมูลเฟสแรกราวเดือนส.ค.นี้ จำนวนประมาณ 300 แปลงจากทั้งหมด 500 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ใจกลางเมืองหลายแห่ง เช่น สุขุมวิท นนทบุรี สีลม

เขายังกล่าวด้วยว่า เพื่อสนองนโยบายกระทรวงการคลังเกี่ยวกับความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการแจกจ่ายข้าวกล่องแก่ชาวบ้านในชุมชนต่างๆทั่วประเทศ กรมฯได้ร่วมมือกับบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยจะเริ่มดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.นี้