เขียวตามเพื่อนบ้าน

เขียวตามเพื่อนบ้าน

คาดดัชนีสลับอ่อนตัวลงจากแรงขายลดความเสี่ยงตามความกังวลงบ 1Q20 ในหลายกลุ่มที่คาดว่าจะหดตัวลงแรงรวมถึงแรงกดดันตามสัญญาณเทคนิคบริเวณ High เดิม 1,275 จุด

ตลาดหุ้นวานนี้

SET วานนี้รีบาวด์ขึ้นปิดที่ 1,261 จุด (+8.89 จุด) หรือ +0.71% ด้วย Volume ซื้อขาย 7.7 หมื่นล้านบาท แม้ว่าภาวะตลาดจะมีแรงขายกลุ่มน้ำมันตามราคา Oil future ที่ปรับตัวลดลง รวมถึงแรงขาย Sell on fact กลุ่มธนาคารหลังประกาศงบ 1Q20 อย่างไรก็ตามภาวะตลาดได้แรงซื้อในกลุ่มที่รายได้ไม่กระทบจากสถานการณ์ Covid-19 มากนัก เช่น โรงไฟฟ้าและ ICT หนุนให้ดัชนีสามารถปิดบวกได้สำเร็จ  ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 2,756 ล้านบาท  และ Net Short TFEX 4,277 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,990 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,270 – 1,275 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตาม Sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นตอบรับราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังสหรัฐขู่จะยิงเรือปืนของอิหร่านหากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐส่งผลให้สถานกาณ์ระหว่าง 2 ประเทศกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากนี้นักลงทุนยังคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐในวันนี้ (23 เม.ย.) โดยยุโรปจะมีการประชุม EU เพื่อหารือการใช้งบประมาณระยะยาวร่วมกัน ส่วนฝั่งสหรัฐเป็นประเด็นสภาฯอนุมัติมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลจากสถานการณ์ Covid-19 วงเงิน 4.8 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีสลับอ่อนตัวลงจากแรงขายลดความเสี่ยงตามความกังวลงบ 1Q20 ในหลายกลุ่มที่คาดว่าจะหดตัวลงแรงรวมถึงแรงกดดันตามสัญญาณเทคนิคบริเวณ High เดิม 1,275 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่ได้อานิสงส์ต้นทุนราคาน้ำมันลดลง ( TASCO EPG IVL )
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT ( ADVANC INTUCH DTAC ) กลุ่มอาหาร (CPF)
  • กลุ่มสาธารณูปโภคที่รายได้และกำไรสม่ำเสมอ (GPSC GULF BGRIM BCPG TTW)
  • กลุ่ม Finance (KTC SAWAD MTC JMT BAM) กกบ.คลายเกณฑ์จัดชั้นลูกหนี้ตามมาตรฐาน TFRS9 และได้ประโยชน์ซอฟ์ทโลนดอกเบี้ยต่ำจากภาครัฐพื่อแลกกับการพักชำระหนี้

หุ้นแนะนำวันนี้

  • BAM (ปิด 22.7 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 27) แนวโน้มเศรษฐกิจไม่ดี NPLs มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการติดตามหนี้และบริหารสินทรัพย์ จากการเข้าซื้อ NPLs ในราคาที่ถูกลง (แย่งกันขาย) หนุนพอร์ตลูกหนี้ในมือเพิ่มขึ้นรอออกดอกผลเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว นอกจากนี้ BAM ยังมีปัจจัยหนุนในระยะสั้นจากการเตรียมนำทรัพย์ออกประมูลขายในช่วง 2Q20 หนุนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นโดดเด่น
  • IVL (ปิด 28 ซื้อ/เป้า 38) คาดผลประกอบการ 1Q20 โดดเด่นสุดหากเทียบกับผลประกอบการของกลุ่มปิโตรฯ และกลุ่มโรงกลั่นซึ่งคาดว่า 1Q20 จะมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบจำนวนมาก เบื้องต้นเราคาดว่า IVL จะพลิกมีกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาทใน 1Q20 เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.5 พันล้านบาทใน 4Q19

บทวิเคราะห์วันนี้

BCPG (ปิด 16.2 ซื้อ/เป้า 19.8)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวตัว กังวลสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน หลัง ทรัมป์ ขู่ โจมตี เรือสงครามของอิหร่าน: ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาเพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ หรือ 19.1% ปิดที่ 13.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ Brent ที่เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดกลับมากังวลกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ขู่จะสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐทำการยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านทุกลำ หากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือของสหรัฐ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากข่าวที่ซาอุฯและกลุ่ม OPEC+ อาจจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหาข้อสรุปในการลดกำลังการผลิตช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ลดลงแรง ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากที่ผันผวนอย่างหนักในช่วงเปลี่ยนสัญญาส่งมอบน่าจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันของบ้านเรา อาทิ PTTEP PTT
  • (+) ดาวโจนส์ปิดบวก 457 จุด คาดหวังสภาผู้แทนฯ สหรัฐผ่านร่างงบประมาตรเยียวยา SME มูลค่า 4.84 ล้านล้านเหรียญฯ: ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 456.94 จุด หรือ +1.99% ปิดที่ 23,475.82 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวประกอบกับนักลงทุนคาดหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะให้การอนุมัติมาตรการเยียว SME วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้วุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างงบประมาณฉบับนี้ไปแล้ว โดยสภาผู้แทนราษฎรจะจัดการประชุมเพื่ออนุมัติมาตรการดังกล่าวในวันนี้ ทั้งนี้วงเงินส่วนใหญ่กว่า 3.10 แสนล้านดอลลาร์ จะนำไปปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีวัตถุประสงค์ให้ธุรกิจเหล่านี้ยังสามารถจ้างงานต่อไปได้หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติ Covid-19 ส่วนงบประมาณอีก 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์จะจัดสรรให้กับโรงพยาบาลต่างๆ และอีก 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จัดสรรให้เพื่อสนับสนุนการตรวจหาเชื้อไวรัส Covid-19
  • (+) ผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องคาดหวังภาครัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการ lockdown ในสัปดาห์หน้า: วานนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ในเมืองไทย พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 15 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 19 รายและนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 วัน ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 2,826 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 49 ราย หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังลดลงต่อเนื่องจะทำให้ตลาดกลับมามีความหวังทางบวกอีกครั้งถึงการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ซึ่งภาครัฐจะมีการประชุมเพื่อสรุปความชัดเจนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า