‘โฮเทลส์เรสซิเดนซ์’ภูเก็ต กูรูชี้ระยะยาวยังโตแกร่ง

‘โฮเทลส์เรสซิเดนซ์’ภูเก็ต  กูรูชี้ระยะยาวยังโตแกร่ง

ในสถานการณ์ที่ธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวของ“ภูเก็ต” กำลังชะงัก เผชิญความยากลำบากจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในพื้นที่ภูเก็ตเองและทั่วโลก

แต่หากส่องกล้องมองระยะยาว กูรูด้านท่องเที่ยวฟันธงว่าเทรนด์การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมาแรงในภูเก็ตอย่างตลาด “โฮเทล เรสซิเดนซ์” (Hotel Residence) หรือโครงการที่อยู่อาศัยที่มุ่งเน้นการให้บริการ โดยใช้แบรนด์โรงแรมระดับโลกเข้ามาบริหารและเป็นจุดขายนั้น จะยังคงน่าจับตา สวนกระแสฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปได้

บิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์ โฮเทลส์เวิร์คส์ (C9 Hotelworks) ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาด้านโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการบริการในเอเชีย บอกว่า ท่ามกลางโควิด-19 ภาคธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ระดับการลงทุนได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้ทั่วทั้งเอเชีย รวมถึงไทย โดยเฉพาะภูเก็ตและกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนตลาด “โฮเทล เรสซิเดนซ์” ของภูมิภาคเอเชีย

สำหรับภูเก็ตซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากในขณะนี้ จากโครงการโรงแรมที่กำลังจะเปิดตัวเข้าสู่ตลาดภูเก็ตปี 2020 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 5,009 ห้องพัก จาก 21 โครงการ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พบว่าส่วนใหญ่จะหยุดชั่วคราว แต่โครงการระยะยาวอย่างโฮเทลเรสซิเดนซ์ยังรุดหน้าดำเนินการต่อไป และคาดว่าการลงทุนโรงแรมในภูเก็ตหลังจากผลพวงของโควิด-19 จะยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม

โดย “จีน” กับ “รัสเซีย” คือสองตลาดสำคัญที่เดินทางสู่ภูเก็ต รวมกันแล้วเท่ากับ 40% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ตอนนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวภายในประเทศจีนแล้ว และคาดว่าภายในกลางปีนี้จะเริ่มเห็นกระแสการท่องเที่ยวเกิดขึ้น โดยคาดว่าตลาดจีนจะเดินทางภายในภูมิภาคในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 สำหรับรัสเซียถือเป็นตลาดสโนว์เบิร์ด (Snowbird) ที่มาในช่วงเดือน ต.ค. ถึง เม.ย.ซึ่งเป็นฤดูหนาว จึงคาดว่าตลาดนี้น่าจะกลับมาอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้

จากรายงาน Asia Hotel Branded Residences Update 2020 ของซีไนน์ โฮเทลส์เวิร์คส์ ระบุว่า โฮเทลเรสซิเดนซ์ระดับการลงทุนในภูมิภาคเอเชียมีการพัฒนาที่แข็งแกร่ง โดยภายในปี 2025 จะมีโครงการใหม่ถึง 79 โครงการ 16,130 ยูนิต กำลังจะเข้ามาสู่ตลาดโฮเทลเรสซิเดนซ์ในเอเชีย โดยทำเลที่ให้บริการอสังหาริมทรัพย์พรีเมียมภายใต้แบรนด์โรงแรมระดับลักชัวรีตั้งอยู่ในประเทศไทยมากที่สุด คิดเป็น 29% ของอุปทาน โดยมี 30 โครงการโฮเทลเรสซิเดนซ์ระดับลักชัวรี จำนวน 4,730 ยูนิต ที่กำลังพัฒนาในประเทศไทยภายในปี 2020 – 2025 ตามมาด้วยฟิลิปปินส์และเวียดนาม

นอกจากนี้ ยังพบว่าตลาด “นักลงทุนจีน” มีความสำคัญต่อโครงการโฮเทลเรสซิเดนซ์แบรนด์หรูตามเมืองชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย โดยสามารถกวาดยอดขายได้จากนักลงทุนจีนมากกว่า 57% ซึ่งเป็นผลมาจากนักพัฒนาชาวจีนรุ่นสอง (Second-generation) ให้ความสนใจลงทุนนอกประเทศจีน ควบคู่ไปกับการลงทุนเฉพาะโครงการที่ได้รับผลตอบแทนสูงในจีนแผ่นดินใหญ่

การเปลี่ยนแปลงในตลาดการลงทุนที่อยู่อาศัยอีกอย่างหนึ่งคือ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียหลายแห่งกำลังพัฒนาโครงการโฮเทลเรสซิเดนซ์ในต่างประเทศบนกลยุทธ์การลงทุนข้ามพรมแดน โดยใช้แบรนด์โรงแรมระดับโลกเข้ามาบริหารและเป็นจุดขาย

สะท้อนให้เห็นว่าโฮเทลเรสซิเดนซ์คือรูปแบบที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์ ลดความเสี่ยงในการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังเป็นทางออกของการลงทุนโรงแรมที่จากเดิมมุ่งเน้นเพียงแค่ผลตอบแทนในตลาดการบริการที่มีต้นทุนสูงและให้ผลตอบแทนต่ำอีกด้วย