‘ราคาทอง’ ส่อทะลุ 2.7 หมื่นบาท ‘จิตติ’ ฟันธงแนวโน้มขาขึ้น วอนนักลงทุนอย่าเร่งขาย

สมาคมค้าทองคำ ฟันธง แนวโน้มราคาทองยังขาขึ้น คาดมีโอกาสเห็น “นิวไฮ” รอบใหม่ หลัง 8 ปีก่อนทำสถิติสูงสุดที่ 27,100 บาทต่อบาททองคำ วอนประชาชนอย่าเพิ่งรีบนำมาขาย เหตุร้านค้าหลายแห่งเริ่มขาดสภาพคล่องหนัก บางร้านส่อหยุให้บริการชั่วคราวหวังลดปัญหาคนแห่เทขาย
ราคาทองคำตลาดโลกยังคงพุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวทะลุดระดับ 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่ราคาทองคำในตลาดฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 1,769 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลจากตลาดให้ความสำคัญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศวานนี้(14เม.ย.) มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 9 ครั้ง โดยราคาล่าสุดปิดที่ 25,900 บาทต่อบาททองคำ
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำยังมีทิศทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้ดีมานด์ทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยประเมินว่าราคาทองคำปีนี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากเมื่อ 8 ปีก่อนที่ ทองคำแท่งในประเทศเคยทำสถิติสูงสุดที่ 27,100 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 คลี่คลาย ก็อาจทำให้ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลงได้เช่นกัน
สำหรับราคาทองคำในประเทศ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปรับขึ้นมาแล้วราว 6,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้นักลงทุนที่เคยซื้อไว้ก่อนหน้านี้พากันมาเทขายทองคำ ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลให้บางคนต้องการถือเงินสดเพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่าย
นายจิตติ กล่าวว่า ช่วงหลายวันนี้มีประชาชนพากันมาขายทองคำที่ร้านค้าทองจำนวนมาก ส่งผลผู้คนล้นทะลักหน้าร้านค้า ทำให้ร้านค้าหลายแห่งขาดสภาพคล่องหนัก ไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน เพราะมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ ประกอบกับการส่งทองคำไปขายต่างประเทศก็ทำได้ลำบากเพราะสายการบินหยุดให้บริการ ต้นทุนการขนส่งจึงสูงขึ้น
"อยากให้นักลงทุนชะลอการขายทองคำออกไปก่อนในช่วงนี้ เพราะร้านค้าเองก็เริ่มจะรับไม่ไหว ไม่สามารถหมุนสภาพคล่องได้ทัน หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้หรือลากยาวเป็นอาทิตย์ร้านค้าทองคงรับไม่ไหว โดยเฉพาะร้านค้าทองในเยาวราช ซึ่งทุกวันนี้มีเงินไหลออกหลายพันล้านบาทและเงินทุนหมนเวียนเริ่มจำกัด อาจทำให้จำเป็นต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ซึ่งจะกระทบต่อพนักงานและบุคลากรในอุตสาหกรรมทองคำเป็นจำนวนมาก”
นายจิตติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน สมาคมฯ ยังคงหารือกันตลอด เพื่อหามาตรการรับมือ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตลาดโลกด้วย ซึ่งตอนนี้หาวิธีแก้ไขลำบากและไม่รู้จะทำอย่างไร โดยตอนนี้ที่ทำได้ก็ได้แต่ภาวนาไม่อยากให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเร็ว เพราะจะเร่งให้คนที่ถือทองคำ นำออกมาขายเร็วขึ้น
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า แม้จะมีประชาชนพากันมาเทขายทองคำจำนวนมาก แต่บริษัทมั่นใจว่ายังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรองรับการขายของลูกค้า โดยสาเหตุการเทขายดังกล่าว เชื่อว่าเป็นเพราะลูกค้าต้องการตุนสภาพคล่องเงินสดเอาไว้ใช้จ่ายในช่วง โควิด แพร่ระบาด และอีกส่วนอาจขายเพื่อทำกำไรหลังราคาทองคำพุ่งต่อเนื่อง
"สาขาโซนเยาวราชของเราเปิด 2 แห่งต่อวัน สลับกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่ตอนนี้เราอาจพิจารณาเปิดให้ครบทั้ง 4 สาขาเหมือนเดิม เพราะมีลูกค้าจำนวนมากต่อแถวมาขายทองจนล้นออกมานอกร้าน ซึ่งทางเรายังไม่ประสบปัญหาการเงินขาดสภาพคล่อง เพราะแม้ว่าหน้าร้านจะขายทองไม่ได้ แต่เราสามารถนำทองไปหลอมแปรสภาพเป็นเงินสดได้ เพราะการส่งออกเรายังดำเนินการได้ แม้จำนวนจะลดน้อยลงตามกำลังการสกัดในตลาดโลกและมองว่าภาพรวมตลาดโลกมีความต้องการทองคำสูงเห็นจากราคาที่พุ่งขึ้นแบบนี้”







