ลงตามภูมิภาค

ลงตามภูมิภาค

ดัชนีวานนี้ปิดบวกกว่า 38 จุด รีบาวด์คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นช่วยหนุนกลุ่ม ENERG

นอกจากนี้ คาดดัชนียังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นของกองทุน SSF ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,125.86 จุด (+38.04 จุด) Volume 5.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,648.90 ลบ. TFEX Net -3,609 สัญญา ตราสารหนี้ -2,285 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ราคาทองคำปรับตัวลงหลังธนาคารกลางรัสเซียประกาศยุติการซื้อทองคำเข้าทุนสำรอง

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 39 เซนต์ +1.9% ปิดที่ 20.48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากจีนเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนมี.ค. รวมทั้งข่าวผู้นำสหรัฐและรัสเซียจะจัดการเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน

+กองทุน SSF พิเศษเน้นลงทุนหุ้นไทยระยะเวลาลงทุน 3 เดือนลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 2 แสนบาทเริ่มเสนอขายวันนี้ (1 เม.ย.)

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 21,917.16 จุด ร่วงลง 410.32 จุด -1.84% กังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

- นิกเกอิร่วงกว่า 300 จุดเช้านี้ ตามทิศทางดาวโจนส์

-โกลด์แมน แซคส์คาด GDP สหรัฐ -9% ใน Q1 และ -34% ใน Q2 คาด GDP ทั้งปี -6.2%

-แบงก์ชาติรัสเซียประกาศยุติซื้อทองเข้าทุนสำรอง มีผลวันนี้

+ครม.เห็นชอบทบทวนมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ต่อศก.ไทยระยะที่ 2 ในการขยายกลุ่มเป้าหมายและหาช่องทางดึงงบประมาณมาใช้เพิ่มเติม

-ธปท.รายงานภาวะศก.ไทยในเดือน ก.พ.63 หดตัว การท่องเที่ยวหดตัวสูง การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อ ส่งออก-นำเข้าได้รับผลกระทบจากจีนปิดเมือง แต่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากการเร่งซื้อสินค้าจำเป็น

-การประชุมกกร.ในวันที่ 8 เม.ย.มีแนวโน้มจะปรับลด GDP ลงอีกเป็นเดือนที่ 4 จากเดิม 1.5-2%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.15 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.77 บาท/US

*จับตา จีนและอียูเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิต สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค. การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยนักลงทุนยังกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับวานนี้ธปท.ระบุเศษฐกิจไทย ก.พ.63 หดตัวเกือบทุกส่วนจากผลกระทบโควิด-19 คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,100-1,140 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

SKY  (แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม  14.70 บาท)

  • เราปรับลดรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิปี 20 ลง -14.7% และ -12.4% จากประมาณการเดิม ลงสู่ 4,316.17 ล้านบาท และ 272.3 ล้านบาท ยังเติบโต +9.0%YoY และ +24.6%YoY ตามลำดับ เนื่องจากงานประมูลภาครัฐได้ถูกเลื่อนออกไป และโครงการ AOT Digital Platform ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทพยายามขยายสัดส่วนรายได้งานภาคเอกชนที่มี Margin ดีกว่างานภาครัฐมากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 10% โดยเน้นตลาด Smart Securityและ Facility Management  ในลักษณะให้เอกชนเช่าซื้อ และติดตั้งอุปกรณ์ เก็บค่าบริการรายเดือนเป็น Recurring income คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วง 2H20
  • เพิ่มทุน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.7%ของหุ้นสามัญจดทะเบียนเดิม จัดสรร PP 3 ราย ได้แก่ นางสาวอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา นางสาวบุศรา อุไรกุล และบมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI) เพื่อต่อยอดโครงการ AOT Digital Platform ในด้านจำหน่ายสินค้าและบริการ และธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
  • เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 20 จาก 18.30 บาท เหลือ 14.70 บาท ภายใต้สมมุติฐานประมาณการใหม่ และใช้ EPS Fully Diluted โดยประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER +1SD ของหุ้นกลุ่ม ICT ย้อนหลัง 3 ปีที่ 30 เท่า ยังมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 20.5% จึงคงคำแนะนำ ซื้อ"

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)

หุ้นมีข่าว   

(-) JUBILE (อยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงลบ ราคาเหมาะสม 22.5) ปรับกลยุทธ์สู้โควิด-19 รุกขายสินค้าผ่านออนไลน์เต็มสูบ พร้อมอัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ด้านแม่ทัพหญิง "อัญรัตน์ พรประกฤต" เล็งทบทวนเป้าหมายยอดขาย จากเดิมตั้งเป้าโต 8-10% จากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างปรับประมาณการเชิงลบเนื่องจากมาตรการปิดห้างสรรพสินค้าของภาครัฐส่งผลกระทบต่อร้านค้าของ JUBILE ต้องปิดทำการ เบื้องต้นเราประเมินว่าการปิดเมืองจะกระทบยอดขายราว 25% (สมมติฐานปิดเมือง 3 เดือน) นอกจากนี้เพชรเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยในภาวะเศรษฐกิจหดตัวทำให้ประชาชนซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง

(+/-) PTTGC (Bloomberg Consensus 42.56 บาท) ยืนยันรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อน อานิสงส์กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่เร่งทบทวนแผนลงทุนท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ผู้บริหารไม่ล้มแผนปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐฯ พร้อมลุยต่อแม้จะชะลอจากแผนเดิม (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BCH (Bloomberg Consensus 18.57 บาท) ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/63 เด้ง! หลังผู้ป่วยทั่วไป-ประกันตนขยายตัวสูง พร้อมรอรับอานิสงส์ภาครัฐอัดงบก้อนใหญ่ให้รพ.เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยันเดินหน้าเปิดรพ.ใหม่ที่สระแก้ว ขนาด 90 เตียง พ.ค.นี้ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+/-) BEAUTY (Bloomberg Consensus 2.12 บาท)  บอร์ด BEAUTY อนุมัติเลื่อนจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.036 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 92.72% ของกำไรสุทธิ เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 เม.ย. และจ่ายเงินปันผล 29 เม.ย.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

 (+/-) EPG (Bloomberg Consensus 7.31 บาท) เผยฉนวนกันความร้อน/เย็นของ Aeroflex USA เปิดดำเนินการผลิตตามปกติ หลังภาครัฐชี้เป็นสินค้าจำเป็นสำหรับระบบปรับอากาศ อุตสาหกรรมอาหาร และยา ในสหรัฐฯ ยันใช้มาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เข้มงวด ส่วนโรงงานแอร์โรเฟลกซ์ 5 โรงงานแห่งใหม่ จ.ระยอง เริ่มผลิตมี.ค.ที่ผ่านมา หนุนกำลังการผลิต30,000 ตัน/ปี เร่งขยายตลาดทั่วทวีปเอเชีย (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) RML (Bloomberg Consensus 1.39 บาท) โชว์แบ็กล็อก 8,010.5 ล้านบาท พร้อมลุยปรับกลยุทธ์ปีนี้ เน้นทำการตลาดเชิงรุกผ่านช่องทาง Online ด้วย O2O กระตุ้นความต้องการซื้อและเข้าถึงลูกค้าโดยตรง เล็งเพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) DELTA (Bloomberg Consensus 48.51 บาท)  ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2563 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ยิ้มรับออเดอร์ใหญ่จีนไหลเข้าหลังผ่านพ้นวิกฤติการระบาดไวรัสโควิด-19 ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวดี เชื่อปีนี้ยอดขายกลับมาเป็นปกติ ด้านเงินบาทอ่อนค่าที่ 32 บาท เอื้อต่อธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) "กสทช." ควักเงินกองทุน กทปส. 3,000 ล้านบาท ให้ประชาชนใช้เน็ตฟรี 10 กิกะไบต์-อัพสปีดเน็ตบ้านเป็น 10 Mbps นาน 30 วัน หนุน "Work From Home" นักวิเคราะห์ชี้ช่วยโอเปอเรเตอร์ แถมทำแข่งขันลด แย้มผลงานไตรมาส 1 ดีทั้งกลุ่ม แนะ "ทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว" ADVANC เป้า 225.92 บาท, INTUCH เป้า 76.09 บาท, DTAC เป้า 36.98 บาท, และ TRUE เป้า 5.80 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CBG (Bloomberg Consensus 90.40 บาทปลื้ม Woody C+Lock (วู้ดดี้ ซี+ล็อค) ขายดี ลูกค้าสั่งออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง หนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก แย้มผลงาน Q1/2563 ยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ยอดขายยังดี ส่วนยอดขายต่างประเทศมีออเดอร์ล่วงหน้าไปถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว เชื่อทั้งปีผลงานโตไม่ต่ำกว่า 25% แย้มปลายปีเล็งออกสินค้าประเภท Functional Drink เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)