SAWAD - ขาย

SAWAD - ขาย

เสียสละผลตอบแทนสินเชื่อเพื่อรักษาคุณภาพหนี้

Event

อัพเดตแนวโน้มของบริษัท

lmpact

Yield กำลังถูกกดดัน

เราพบว่ามีสัญญาณที่สำคัญสองตัวที่กดดัน yield สินเชื่อของบริษัท 1.) อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 2.) ธปท. แนะนำให้ลดดอกเบี้ยลงเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ถูกกระทบจากโรคระบาด ทั้งนี้ การระบาดของ COVID-19 ทำให้การว่างงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในหมู่ลูกจ้างรายวัน และแรงงานระดับล่าง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของธุรกิจนอนแบงก์ และทำให้เกิดความเสี่ยงในแง่คุณภาพสินทรัพย์ นอกจากนี้ เรายังเป็นห่วงสินเชื่อที่ดิน (land for cash) ซึ่งดำเนินการภายใต้ BFIT (คิดเป็น 30% ของพอร์ตสินเชื่อของกลุ่ม SAWAD) และมี yield อยู่ที่ประมาณ >30% โดยยีลด์ที่ของ BFIT ทำให้ยีลด์รวมของทั้งกลุ่ม SAWAD สูงถึง 28.5% ซึ่งสูงกว่าของคู่แข่งที่ 22-24% และการที่ ธปท. ขอให้ช่วยสถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา ทำให้เราเป็นห่วงว่าแรงกดดันทางอ้อมจาก ธปท. ให้ SAWAD ต้องชะลอการขายสินเชื่อภายใต้ BFIT และหันมาปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียน และนาโนไฟแนนซ์แทน

ปรับลดสมมติฐาน yield สินเชื่อลง 2%

ภายใต้ใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อปี 2563 ที่ 20% โดยทั้งหมดการขยายสินเชื่อภายใต้สินเชื่อจำนำทะเบียน และนาโนไฟแนนซ์ ทำให้ yield สินเชื่อของ SAWAD ของกลุ่มจะลดลง 2-2.5% ซึ่งยีลด์สินเชื่อที่ลดลงทุก ๆ 1% จะทำให้กำไรของ SAWAD ลดลง 5% ทั้งนี้ ทั้งนี้เราใช้ยีลด์ลดลง 2%
เป็นกรณีฐานในการปรับลดสมมติฐาน yield สินเชื่อของ SAWAD ลง 2% เป็น 26.4%

ปรับเพิ่มคชจ.สำรองฯ ( credit cost) ปี 2563/64 ขึ้นอีก 200bps/195bps (จากเดิมที่ 160bps/175bps)

บริษัทมีนโยบายจะคงรักษาระดับหนี้เสียเอาไว้ให้ต่ำที่สุด ดังนั้นสัดส่วน NPL coverage ในปี 2562 จึงลดลงเหลือแค่ 57% ซึ่งจากสัดส่วน NPL ที่ 3.8% ในปี 2562 การที่ NPL เพิ่มขึ้นทุก ๆ 10% จะฉุดให้สัดส่วน NPL coverage ลดลง 6% โดยในกรณีฐาน เราใช้สมมติฐานว่า NPL เพิ่มขึ้น 2.0x จาก 1.4
พันล้านบาทในปี 2562 เป็น 2.5-2.8 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 200bps (จาก 140bps ในปี 2562) เพื่อรักษาสัดส่วน NPL coverage เอาไว้ที่ 56%

ปรับลดประมาณการปี 2563/64 ลง 9%/8% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 63F เป็น 49 บาท (P/E 15x)

เพื่อสะท้อนถึง NPL ที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับเพิ่มสมมติฐาน credit cost ปี 2563/64 เป็น 200bps/195bps จากเดิมที่ 160bps/195bps และปรับลดสมมติฐาน yield สินเชื่อลง 2% เป็นปีละ 26.4% จากเดิมที่ 28.4% ในขณะที่ปรับลดสัดส่วน SG&A/รายได้เหลือ 35%/36% จากเดิมที่ 36%/37% นอกจากนี้ เรายัง de-rate P/E เป็น 15.2x ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ย -1 S.D. จากเดิมที่ 18.5x ทำให้ได้ราคาเป้ามายใหม่ที่ 49.00 บาท ลดลงจากเดิมที่ 61.50 บาท

Risks

NPL เพิ่มขึ้นทำให้ต้องกันสำรองเพิ่ม ไม่สามารถระดมทุนได้ และสร้างการเติบโตภายใต้ BFIT