ลงต่อ

ลงต่อ

กลยุทธ์ ถือเงินสด

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เราคาดดัชนีฯ ลงต่อ แนวรับ 1056 / 1000 จุด แนวต้าน 1120 / 1146 จุด (ทางปัจจัยพื้นฐาน เราคาดว่าดัชนีฯ จะอยู่ในกรอบ 884-1083 จุด) ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) ตลาดหุ้นโลกร่วงแรงรับข่าวปธน.ทรัมป์ ระงับการเดินทางจากประเทศยุโรปทั้งหมดยกเว้นอังกฤษ เป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป 2) รองนายกฯ สั่งคลังจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมทบทวนมาตรการต่างๆ รวมถึงธุรกรรมชอร์ตเซล ฯ ลฯ 3) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.57 จุด (หลักๆ TRUE TVO SIRI)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-U.of Michigan consumer sentiment เดือน มี.ค. คาด 95 (Vs เดือน ก.พ. 101)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

- ตลาดหุ้นไทยดิ่งแรงสุดในภูมิภาค: ดัชนีตลาดฯ เกิด Circuit Breaker (ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2008) หลังร่วงลงกว่า 10% ในช่วงเปิดภาคบ่ายและลงไปสร้างจุดต่ำสุดของวัน ที่ 1095.37 จุด -154.52 จุด ก่อนรีบาวด์ในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายมาปิดที่ 1114.91 จุด -134.98 จุด -10.8% วอลุ่ม 1.01 แสนล้านบาท ทุกกลุ่มอุตฯ ปรับลดลง นำโดยกลุ่มรับเหมาฯ -17.41% ปิโตรฯ -14.54% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ -14.13% อสังหาฯ -13.3% ขนส่ง -12.08%

- ตลาดหุ้นโลกดิ่งต่อ: การไม่มีมาตรการที่ชัดเจนจากรัฐบาลและจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งขึ้น ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤติ black Monday 1987 โดยวานนี้เกิด Circuit Breaker เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ DJ -9.99% S&P500 -9.51% Nasdaq -9.43% (YTD DJ -25.7% S&P500 -23.22% Nasdaq -19.74%) นำลงโดยกลุ่มสายการบิน พลังงาน ธนาคารฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปดิ่งแรง จากผิดหวังอีซีบีและหุ้นสายการบินร่วงแรง รับผลกระทบจากการแบนการเดินทางจากยุโรปของสหรัฐฯ CAC40 -12.28% DAX -12.24% FTSE -10.87%

- น้ำมันดิบและทองคำร่วงต่อ: WTI -USD1.48 -4.5% ปิดUSD31.50/บาร์เรล Brent -USD2.57 -7.2% ปิด USD33.22/บาร์เรล คาดอุปสงค์น้ำมันลดลง จากมาตรการสหรัฐฯ ส่วนทองคำร่วง USD52 -3.17% ปิดUSD1590.3/ออนซ์ จากขายชดเชยขาดทุนหุ้น

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 12 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 125,048 ราย (+6,729 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 4,613 ราย (+321 รายใหม่) กระจายไป 117 ประเทศ (+4) โดย 1) จีน มีผู้ติดเชื้อรวม 80,981 ราย (+26) เสียชีวิต 3,173 ราย (+11) 2)นอกจีน มีผู้ติดเชื้อรวม 44,067 ราย (+6,703) เสียชีวิต 1,440 ราย (+310) โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ อิตาลี 12,462 ราย (+2,313) อิหร่าน 9,000 ราย (+958) เกาหลีใต้ 7,869 ราย (+114) ฝรั่งเศส 2,269 ราย (+495) สเปน 2,140 ราย (+501) ส่วน USA 987 ราย (+291) ไทย 70 ราย (+11)

+ จีน: ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยาของจีน แสดงความเห็นว่าหากประเทศส่วนใหญ่ดำเนินการเหมือนจีน คาดสถานการณ์การลุกลามของไวรัสฯ จะอยู่ภายใต้การควบคุมภายในเดือน มิ.ย.

- ตลาดหุ้นไทย: เราประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดฯ จะมาซื้อขายที่ 884-1083จุด และคาดว่าจะเกิดจุดต่ำสุดในช่วงเดือน พ.ค. หลังจากบจ. รายงานกำไร 1Q20E อิงคาดการณ์ผลกำไรที่แย่กว่าคาดการณ์ของตลาดมาก โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ท่องเที่ยว ฯลฯ จากผลกระทบ COVID-19 และราคาน้ำมันดิบโลกที่ร่วงรุนแรง –ดูราย งานวันนี้

+ ไทย: ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน และทบทวนแนวทางอื่นๆ เช่น ธุรกรรมชอร์ตเซล ฯลฯ ส่วนรองนายกฯ สมคิดสั่งคลังตั้งกองทุนพยุงหุ้น พร้อมเร่งหามาตรการเฟส 2 และไม่มีแผนลด VAT เหลือ 0%

- USA: ปธน.ทรัมป์ประกาศสหรัฐฯ ระงับการเดินทางจากประเทศยุโรปทั้งหมด ยกเว้นอังกฤษ ในช่วง 30 วันข้างหน้า มีผลตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป และตำหนิอียูที่ไม่ดำเนินการมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนนับตั้งแต่ COVID-19 เริ่มระบาด ขณะที่ไม่ได้วิตกต่อการทรุดลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะเชื่อว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ในที่สุด

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา: ECB Meeting สร้างความผิดหวัง โดยคงอัตราดอกเบี้ย deposit facility ที่ -0.5% (Vs คาด -0.6%) แต่เพิ่มปริมาณทา QE อีก 1.2 แสนล้านยูโรต่อปี (เดิมซื้อพันธบัตร วงเงิน 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน)

กลยุทธ์: ถือเงินสด

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: INTUCH JASIF CHAYO

หุ้นโมเมนตัมลบ: หุ้นบลูชิพขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน ท่องเที่ยว ธนาคารฯ และส่งออก

Derivatives: ทยอยแบ่งปิด Short GOH20 ทากาไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)