GLOBAL - ถือ

GLOBAL - ถือ

รอต่อไป

Event

อัพเดตแนวโน้มของบริษัท

lmpact

เริ่มพบว่าภาวะตลาดเป็นลบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ

เราเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจใน 4Q62 ซึ่งฉุดให้ SSSG ของ GLOBAL ติดลบที่ ~1.0%และทำให้ SSSG ปี 2562 อยู่ที่ 3.0% (ต่ำกว่าสมมติฐานของเราที่ 5%) เราคิดว่าภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยจะยังคงดำเนินต่อไปและกดดัน SSSG ของ GLOBAL ให้ติดลบในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้
ถึงแม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับ GLOBAL แต่บริษัทก็ถูกกระทบโดยตรงจากความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าซึ่งเป็นผลมาจากการปิดเมืองของจีน ดังนั้น เราจึงปรับสมมติฐาน SSSG ของเราในปี 2563-2564 ลง 2% เหลือ -2% และ 0% ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 7 แห่งในปีนี้ โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่สองแห่งใน 1H63

มีโอกาสที่อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นได้จากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำ

GPM ของ GLOBAL ใน 4Q62 อยู่ที่ 23.0% เพิ่มขึ้นจาก 19.3% ใน 1H62 เนื่องจากสินค้าบางรายการขาดสต็อกใน 1H62 ดังนั้น GPM ในปี 2562 จึงเป็นฐานที่ต่ำอยู่ที่ 20.6% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้า GPM ปีนี้ไว้ที่ 22.0% แต่เรายังมองแบบอนุรักษ์นิยมเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่เป็นลบ (ซึ่งอาจะทำให้ต้องมีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มสมมติฐาน GPM ~1% เป็น 20.7% ในปี 2563 และ 20.8% ในปี 2564 ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอาจจะมาจากกลยุทธ์เน้นสินค้าhouse brand นอกจากนี้ เราก็ยังปรับเพิ่มสมมติฐานสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายขึ้นอีก 1% เพื่อสะท้อนถึงการขยายสาขาของบริษัท

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 2% แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นอีก 3%

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 2% แต่ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นอีก 3% หลังจากที่เราปรับสมมติฐานใหม่เพื่อสะท้อนแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตของ EPS ปี 2563 ติดลบอยู่ที่ -1.4% ก่อนที่พลิกฟื้นเป็นบวกที่ 19% ในปี 2564

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ลงจากเดิมที่ 15.40 บาท เหลือ 15.10 บาท โดยใช้ WACC ที่ 7.2% riskfree ที่ 3.1% และ T(G) ที่ 3.0% สะท้อน i) ปรับลด SSSG 2% ii) ปรับอัตรากำไรขั้นตเนขึ้น 1% และ iii) ปรับ SG&A to sales ขึ้น 1% ทั้งปี 2563-64 ทั้งนี้ เนื่องจากเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกเพียงแค่ 6% ในขณะที่ราคาหุ้นก็ค่อนข้างแพงโดยคิดเป็น PER ที่ 28.9X เราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ"

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง ขยายสาขาได้ช้ากว่าแผนที่วางไว้ ราคาพืชผลตกต่ำ ภัยธรรมชาติ และสต็อกสินค้าเพิ่มขึ้น