'คลัง' อัดแพ็คเกจ กระตุ้น 'เอสเอ็มอี' ลงทุน
“คลัง” เตรียมออกมาตรการอุ้มเอสเอ็มอีก๊อกสอง อัดแพ็คเกจกระตุ้นนลงทุนใหม่ เผยมีแผนจะให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อแมทชิ่งฟันด์ สิทธิภาษีบีโอไอ พร้อมซอฟท์โลนจากธปท.และออมสิน ด้สน“สมคิด” จัดประชุมเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสากิจ หลังกฎหมายงบรายจ่ายปี 63
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกแพ็คเกจสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทุนใหม่ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) พิจารณาออกมาตรการดังกล่่าว
หลังจากก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกชุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นการเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ เมื่อธุรกิจของผู้ประกอบการดีขึ้น จะมีความสามารถในการลงทุนใหม่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะออกแพ็คเกจมาตรการมาสนับสนุน
เขากล่าวต่อว่า มีหลายเครื่องมือที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาในแพ็คเกจมาตรการเพื่อสนับสนุนการลงทุนของเอสเอ็มอี เช่น การให้สิทธิประโยชน์เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งแมทชิ่งฟันด์ เพื่อนำเงินไปลงทุนในเอสเอ็มอี ขณะที่บีโอไอได้รับโจทย์จากรัฐบาลในการพิจารณามาตรการส่งเสริมการลงทุน ในส่วนของธปท.นั้น กำลังพิจารณามาตรการเพื่อช่วยลดต้นทุนการลงทุนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ หรือ ซอฟท์โลนแก่สถาบันการเงิน ขณะที่ธนาคารออมสินก็สามารถให้ซอฟท์โลนแก่สถาบันการเงินเพื่อนำไปปล่อยกู้แก่เอสเอ็มอีได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ในเรื่องการประมูลงานภาครัฐ กระทรวงการคลัง จะหาทางให้แต้มต่อแก่เอสเอ็มอีในการเข้ามาประมูลงานภาครัฐ ซึ่งกำลังให้กรมบัญชีกลางไปพิจารณาว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพิ่มโอกาสดังกล่าวแก่เอสเอ็มอี โดยไม่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด
“การกระตุ้นการลงทุนของเอสเอ็มอีจะเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของทั้งภาครัฐแลรัฐวิสาหกิจที่จะเข้ามาช่วยเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย” นายอุตตม กล่าว
ในส่วนของการเร่งรัดการเบิกง่ายงบลงทุนของกฎหมายงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ซึ่งเพิ่งผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดมา 4 เดือน ทางรัฐบาลได้เตรียมแผนการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน เนื่องจากประเมินแล้วว่ากฎหมายงบประมาณปีดังกล่าวจะต้องล่าช้ากว่ากำหนด ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้อนุมัติให้ส่วนราชการที่มีงบลงทุน ได้เตรียมการประมูลก่อนที่กฎหมายงบประมาณจะผ่านการอนุมัติ เช่น การจัดเตรียมเอกสารการประมูล รวมถึงการจัดทำร่างสัญญาการประมูล เมื่อกฎหมายงบประมาณมีผลบังคับใช้จะได้สามารถเปิดการประมูลแข่งขันได้ทันที ทั้งนี้ สำนักงบประมาณคาดว่า ภายในเดือนพ.ค.นี้ จะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ราว 1 แสนล้านบาทจากงบลงทุนของรัฐบาลกว่า 6แสนล้านบาท
เขากล่าวด้วยว่า ในส่วนงบลงทุนใหม่ของรัฐวิสาหกิจนั้น ทางกระทรวงการคลังก็จะเข้าไปกำกับดูแลให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ตนจะจัดให้มีการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนกับรัฐวิสาหกิจต่างๆ โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม