Power sector - Neutral

Power sector - Neutral

วิเคราะห์ความเป็นไปได้จากกรณีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

Event

เราได้พูดคุยกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวกับข่าวกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศสัปดาห์ที่แล้ว

lmpact

ไม่มีผลกระทบกับโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

จากการพูดคุยกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินในกรณีที่กำลังการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนแค่ 34.0% ของกำลังการผลิตไฟฟ้า ทำให้เราได้ทราบว่า i) โรงไฟฟ้าที่ดำเนินการอยู่แล้วและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างจะไม่ถูกกระทบ ii) กระทรวงพลังงานมีเวลา 120 วันในการปรับแผน PDP ให้เป็นไปตามมาตรา 56 ของรัฐธรรมนูญไทย พ.ศ. 2560 และ iii) ถ้าหากว่ารัฐบาล (รวม กฟผ.ด้วย) เป็นเจ้าของบริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชนเกินกว่า 51% เราก็จะนับกำลังการผลิตทั้ง 100% ว่าเป็นส่วนของภาครัฐ

มีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะเป็นเจ้าของกำลังการผลิตเกินกว่า 51%

ตามการวิเคราะห์ของเรา ในสิ้นปี 2562 นี้ กฟผ. และกำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนที่ภาครัฐเป็นเจ้าของในบริษัทไฟฟ้าภาคเอกชนอย่างเช่น Global Power Synergy (GPSC.BK/GPSC TB)*, RATCH Group (RATCH.BK/RATCH TB)* และ Electricity Generating (EGCO.BK/EGCO TB)* จะคิดเป็น 46.4% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ ดังนั้น การที่ กฟผ. จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าให้ถึง 51% ของกำลังการผลิตทั้งประเทศนั้น EGAT และ PTT(PTT.BK/PTT TB)* จะต้องเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นให้ถึง 51% และ กฟผ./บริษัทไฟฟ้าที่รัฐบาลเป็นเจ้าของต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% ในโครงการโรงไฟฟ้า IPP ที่จะเปิดประมูลใหม่ และโครงการพลังงานหมุนเวียนบางส่วน เรามองว่าวิธีนี้เป็นทางเลือกที่ดำเนินการได้ง่ายที่สุด แต่จะทำให้ RATCH และ GPSC กลายสภาพไปเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้หนี้ของทั้งสองบริษัทถูกนับเป็นหนี้สาธารณะด้วย และส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มขึ้นจาก 42.0% เป็น 42.5% ทั้งนี้ การตัดสินใจในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีพลังงานว่าจะดำเนินการตามคำแนะนำของสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดินหรือไม่

โอกาสและความเสี่ยงในกรณีที่มีการดำเนินการในเรื่องนี้

เรามองว่าบริษัทที่เป็นหน่วยงานสำหรับการลงทุนในภาครัฐจะมีโอกาสมากขึ้นในการประมูลโครงการ IPP ใหม่ ในขณะที่โอกาสของผู้เล่นรายอื่นลดลง โดยเรามองว่า GULF Energy Development (GULF.BK/GULF TB)* อาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ในขณะที่ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนก็มีความเสี่ยงเพราะกำลังการผลิตใหม่จะถูกจัดสรรให้ กฟผ. ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังไม่น่าจะมีการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ และผู้ประกอบการทุกรายก็ได้กระจายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนออกไปยังต่างประเทศหมดแล้ว

Valuation & Action

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ Neutral โดยเราคาดว่ารัฐมนตรีพลังงานคนใหม่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ เราเลือก BGRIM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้เนื่องจาก กำไรโตเด่นใน 2Q-3Q19 และอาจจะมีอัพไซต์ส่วนเพิ่มจากโครงการต่างประเทศและมองว่ามีโอกาสซื้อเก็งกำไร RATCH ได้ถ้ามีการดำเนินการในเรื่องนี้จริง

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่