ไปต่อ
SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย
ประกอบกับการเมืองภายในประเทศมีความชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ลงทุนต่างชาติที่ยังคงสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่อง โดยกลุ่ม Big cap. ที่หนุนตลาด ได้แก่ PTT CPN และ KBANK ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,648.46 จุด (+10.77 จุด) Volume 5.4 หมื่นลบ. จาก Foreign +4,798.11 ลบ. TFEX Net -2,169 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +24,250 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ตลาดหุ้นสหรัฐบวกแรงจากความหวังว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยหลังมีข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนอ่อนแอและมีมุมมองบวกว่าสหรัฐกับเม็กซิโกจะบรรลุข้อตกลงได้
+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้น ขานรับดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง
+ยูโรโซนเผยดัชนี PMI ภาคบริการในเดือนพ.ค.บ่งชี้ถึงการขยายตัว
+ที่ประชุมรัฐสภาลงมติให้"ประยุทธ์"เป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเสียง 500 ต่อ"ธนาธร"244 เสียงหนุนโรดแมพในการมีรัฐบาลใหม่ดึงความเชื่อมั่นนลท.
-ราคาน้ำมันลดลงแรงหลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 5 สัปดาห์และแตะระดับสูงสุดเกือบ 2 ปี
-ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐในเดือนพ.ค.ต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี
-สหรัฐ-เม็กซิโกคว้าน้ำเหลวในการเจรจาประเด็นภาษีนำเข้าและผู้อพยพ
-IMFเตือนสงครามการค้าสหรัฐ-จีนกระทบ GDP โลกกว่า 4 แสนล้านดอลล์ปีหน้า
-สหรัฐรายงานความเชื่อมั่นของเกษตรกรในเดือนพ.ค.ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 จากความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ-จีน
-มาร์กิตเผยดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐในพ.ค.ร่วงต่ำสุดรอบกว่า 3 ปี สวนทาง ISM ที่ระบุว่าเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
-กกร.มีแนวโน้มปรับลดประมาณการ GDP ปี 62 หลังประเมินส่งออกอาจไม่ขยายตัว
+Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 4.8 พันลบ. ค่าเงินบาท 31.4 บาท/US
*จับตา การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ / ECB ประชุมและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มบวกต่อตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และปัจจัยการเมืองในประเทศที่จะมีความคืบหน้าในการมีรัฐบาลใหม่ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,662 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ดัชนี FTSE All-World หุ้นเข้า : OSP ดัชนี FTSE Small Cap หุ้นเข้า : TQM, NER, PR9 มีผล 21 มิ.ย.
- หุ้น Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, SPA)กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)
- หุ้นน่าลงทุน Theme EEC play : AMATA, WHA, WHAUP, WHART, EASTW, ATP30, ORI
หุ้นรายงานพิเศษ
SCN Analyst Meeting (ราคาปิด3.42 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 4.08) มุมมองบวก
- ผู้บริหารอัพเดทสถานะปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้ามินบู (ถือหุ้น 30%) เฟส 1 กำลังการผลิต 50MW จากทั้งหมด 220MW มีความคืบหน้าถึง 94% กำลังอยู่ระหว่าง Cold commissioning stage คาดจะ COD ได้ในภายใน 2Q62 โดยหลังจาก COD บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการมินบูเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 40% อีกทั้งบริษัทมีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานเช่ารถโดยสารใหม่ของ ขสมก. จำนวน 700 คัน แบ่งเป็นรถ NGV 300 คัน และรถไฮบริด 400 คัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในช่วงกลางปีนี้
- ความเห็น เรามองว่าการดำเนินงานติดตั้งในเฟสถัดไป(เฟส 2,3,4) ของโรงไฟฟ้ามินบู จะสามารถทำได้เร็วขึ้นและตรงตามกำหนดกว่าเฟส 1 ที่ล่าช้า เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในพื้นที่แล้ว อีกทั้งคาดว่าจะสามารถกู้ยืมเพื่อใช้ลงทุนในโครงการในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง หนุนให้ IRR ของโครงการปรับตัวเพิ่มขึ้น
หุ้นมีข่าว
· ประเด็นบวก BEM (ราคาปิด 11.50 บาท Bloomberg Consensus 11.60 บาท) : รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ที่สถานีสนามไชยว่า จะมีการเปิดทดลองเดินรถ โดยให้ประชาชนใช้บริการฟรีช่วงหัวลำโพง – บางแคในวันที่ 12 ส.ค. 62 และเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ ภายในเดือนก.ย. 62 ส่วนช่วงเตาปูน – ท่าพระ จะทดลองการเดินรถในวันที่ 1 ม.ค. 63 และเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ ในเดือนมี.ค. 63 (ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
· PTT (ราคาปิด 47.00 บาท Bloomberg Consensus 54.46 บาท) พร้อมเสนอแผนพลังงานรัฐบาลชุดใหม่ สานต่อพลังงานให้มั่นคง ชี้หากรัฐบาลใหม่หนุนจะทำให้การลงทุนสะดวกและเป็นผลดีทุกฝ่าย ยังเชื่อราคาน้ำมันเคลื่อนไหวกรอบ 60-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ชี้ PTTOR ยังไร้กำหนดเข้าตลาดหุ้น ส่วน 2 โครงการใหญ่ "ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 - ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3" รอ ครม. เคาะ (ที่มา หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
· ITEL แย้มงบครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์ทุกกลุ่มธุรกิจโต ตุนแบ็กล็อก 5,700 ล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้ 1,300-1,700 ล้านบาท เล็งประมูลงานใหม่ 4,000-5,000 ล้านบาท คาดได้งาน 30% ลั่นรายได้ปีนี้โต 30-40% แตะ 2,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
· EPG (ราคาปิด 5.40 บาท Bloomberg Consensus 7.28 บาท ) กางแผนธุรกิจปี 62/63 ดันรายได้เติบโต 10-12% หลังใช้กลยุทธ์ New S-Curve มาขับเคลื่อน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก “AEROFLEX-AEROKLAS-EPP” พร้อมทุ่มงบ 300 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจ พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิพุ่งระดับ 10% หลังลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น แถมได้ดีต้นทุนวัตถุดิบลดลง ดันมาร์จิ้นพุ่ง (ที่มา ข่าวหุ้น)
· PSH (ราคาปิด 21.00 บาท Bloomberg Consensus 20.01 บาท) รับตลาดอสังหาริมทรัพย์ เม.ย.-พ.ค. ยอดเทกอัพเรตโครงการใหม่ลดลง 10-25% เหตุเกณฑ์ LTV ทำพิษ เร่งปรับกลยุทธ์การขาย เน้นเปิดโครงการทำเลที่มีศักยภาพ จับมือแบงก์ผุดโปรฯ กระตุ้นการซื้อ ยันคงเป้ายอดขาย-รายได้ปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
· HARN แย้มงบไตรมาส 2/62 ดีกว่าไตรมาส 1/62 หลังทยอยส่งสินค้าเพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 1,540 ล้านบาท โต 14.5% จากปีก่อน หลังตุนแบ็กล็อก 520.7 ล้านบาท จ่อบุ๊กปีนี้ราว 70% เตรียมลุยขยายธุรกิจไปยังเวียดนาม (ที่มา ข่าวหุ้น)
· NWR (ราคาปิด 0.81 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.20) ศาลสั่ง "พรีเมียร์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ (PE)" จ่ายเงิน 837.22 ล้านบาท ให้ "เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR)" พร้อมชำระดอกเบี้ยอีกราว 7.5% ต่อปีของเงินต้น 473.46 ล้านบาท ส่วน PE แย้มมีสิทธิที่จะขออนุญาตยื่นฏีกาต่อ (ที่มา ทันหุ้น)
· SISB (ราคาปิด 7.15 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 8.84) มั่นใจผลงานไตรมาส 2/2562 ดีกว่าไตรมาส 1/2562 ทั้งปีคงเป้ารายได้โต 15-20% เดินหน้าขยายฐานนักเรียนต่อเนื่อง ปัจจุบันที่ 2,500 คน ทุ่มงบ 70 ล้านบาท ซื้อที่ดินขยายตึกฝั่งธนบุรี รองรับนักเรียนเพิ่ม 600 คน เตรียมบินโรดโชว์สิงคโปร์ 24-26 มิถุนายนนี้ หวังดึงความสนใจนักลงทุนถือหุ้นเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)