เด้งให้ลดพอร์ต

เด้งให้ลดพอร์ต

SET Index ศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลงหลัง MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน

ขณะที่ตลาดหุ้นภายในประเทศถูกกดดันจากความกังวลว่า Fund flow จะไหลออก หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงยังส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ด้านนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า 3.1 พันลบ. ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,641.44 จุด (-12.04 จุด) Volume 4.8 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -1,778.95 ลบ. TFEX Net -17,656 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -1,394 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดบวก 110.32 จุด ขานรับผลประกอบการแกร่ง,ความหวังข้อตกลงการค้า

+ปากีสถานประกาศเปิดน่านฟ้าแล้ว หลังสถานการณ์ตึงเครียดกับอินเดียเริ่มคลี่คลาย

+พาณิชย์ เผย CPI เดือน ก.พ.ขยายตัว 0.73% สูงขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 2, Core CPI ขยายตัว 0.60%

-น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.42 เหตุวิตกเศรษฐกิจชะลอตัวฉุดอุปสงค์น้ำมัน

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาส 1/2562

-WTO ตัดสินให้สหรัฐเป็นผู้ชนะ หลังยื่นคำร้องจีนอุดหนุนภาคเกษตรเพื่อสกัดผู้ส่งออกสหรัฐ

-ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐอยู่ที่ 54.2 จุดต่ำสุดรอบกว่า 2 ปีในเดือนก.พ. สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 18 เดือนในก.พ.

-สหรัฐเผยการใช้จ่ายของผู้บริโภคร่วงลง 0.5% ในเดือนธ.ค. ดิ่งหนักสุดรอบ 9 ปี

-ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ 93.8 ต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.

-ดัชนี PMI บ่งชี้ภาคการผลิตยูโรโซนหดตัวในเดือนก.พ. ครั้งแรกในรอบ 6 ปี

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะซื้อ YTD 1.5 พันล้านบาท ค่าเงินบาท 31.77 บาท/US

คาดดัชนี SET วันนี้อาจรีบาวด์ตามตลาดหุ้นภูมิภาค แต่ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงและเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องยังเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนีทำให้เมื่อมีการรีบาวด์ควรลดสถานะ  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • FTSE Large Cap : HMPRO GULF EA MINT MAKRO BEM DIF
  • FTSE Mid Cap : MTC GPSC

        * HMPRO MTC มีผลตอบแทน YTD น้อยกว่าดัชนี

  • หุ้นได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง : VGI PLANB MACO CPALL MAKRO BJC TKS
  • ขยายเวลา Visa On Arrival : AOT  CENTEL ERW
  • High Dividend : KAMART SIRI SNC ORI DIF BTSGIF SC MC AIT QH KKP TKS

หุ้นแนะนำพิเศษ

CBG analyst Meeting ซื้อเมื่ออ่อนตัว

  • ผู้บริหารเผยยอดขายปีนี้เติบโตอย่างน้อย 10% จากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาและพม่า ขณะที่อังกฤษจะเน้นการลดต้นทุนจากค่าสปอนเซอร์ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านประเทศไทยเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบรวมกลุ่มเพื่อทำ Marketing
  • ภาษีน้ำตาล บริษัทคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีการเตรียมปรับเปลี่ยนสูตรไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้สูตรใหม่ได้ทันภายในเดือนกันยายนนี้ แต่ถ้าสามารถปรับได้ก่อนก็จะส่งผลดีกับอัตรากำไรขั้นต้นให้เพิ่มขึ้น1%
  • ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 19 เนื่องจากคาดว่าตลาดต่างประเทศจะยังโตได้ดี จากพม่าและกัมพูชา ขณะที่ทางอังกฤษผลขาดทุนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากค่าสปอนเซอร์ลดลง อีกทั้งมีการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาปรับตัวขึ้น 43% MTD ได้ตอบสนองต่อข่าวดีไปแล้ว ทำให้เราแนะนำเพียงซื้อเมื่ออ่อนตัว

ส่องหุ้น

CMC   แนวรับ 1.77-1.75 บาท  แนวต้าน 1.82 , 1.91 บาท

JMART แนวรับ 6.75-6.70 , 6.40 บาท  แนวต้าน 7.45 บาท

FN  แนวรับ 1.60 บาท แนวต้าน 1.72-1.74 , 1.84 บาท

หุ้นมีข่าว   

·      SPALI (ราคาปิด 19.70 Bloomberg Consensus 23.46) ภาพรวมในปี 2562 บริษัทวางเป้าจะมีรายได้ 28,000 ล้านบาท เติบโต 8% สิ้นปี 2561 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 42,529 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2562 ประมาณ 13,407 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2563-2565 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย (Presale) อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เติบโต 5% เปิดโครงการใหม่รวม 34 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่เปิด 25 โครงการ มูลค่ารวม 25,980 ล้านบาท ส่วนโครงการมิกยูสซ์ “Supalai Icon สาทร” มูลค่าโครงการ 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายประมาณปลายเดือน เม.ย. 2562 โดยเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 700 กว่ายูนิต ราคาขายประมาณ 2 แสนกว่าบาทต่อตรม. ด้านกลยุทธ์การเข้าไปลงทุนโครงการในภูมิภาคต่าง ๆ บริษัทยังคงมองหาโอกาสขยายการลงทุนเพิ่มเติมไปยังหัวเมืองหลักตามภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางของธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ (ที่มา ข่าวหุ้น)

ความเห็น หุ้นน่าสนใจที่ yield สูง บริษัทจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.6 บาทต่อหุ้น yield 3% yield ทั้งปี 5.1% แนะนำถือรอรับเงินปันผล Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 6,151 ล้านบาท+6.6%

·      SC Analyst Meeting (ราคาปิด 3.04 Bloomberg Consensus 3.81) มุมมองบวกที่ yield สูง

ปี 62 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ 1.9 หมื่นลบ. +22% โดยมี Backlog ยกมา 9.9 พันลบ. ส่วนที่จะโอนในปีนี้ราว 65% หรือเกือบ 6.5 พันลบ. คอนโดฯที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้มี 4 โครงการได้แก่ ศาลาแดงวัน (ขายแล้ว 54%) และ BEATNIQ (ขายแล้ว 39%) ที่สร้างเสร็จในปี 61 และอีก 2 โครงการที่จะสร้างเสร็จใน 4Q62 ได้แก่ 28 ชิดลม(ขายแล้ว 56%) และเซ็นทริค รัชโยธิน (ขายแล้ว) 34% สำหรับเป้ายอดขาย presale อยู่ที่ 2.2 หมื่นลบ. +46% โดยมีแผนเปิด 13 โครงการใหม่มูลค่ารวม 22,700 หมื่นลบ.แบ่งเป็นแนวราบ 8 โครงการ คอนโดฯของบริษัท 2 โครงการ คอนโดฯของ SCOPE 2 โครงการ ในช่วงครึ่งปีแรกจะเปิดตัว “SCOPE-หลังสวน” สำหรับลูกค้าระดับบน มูลค่าโครงการ 7,800 ลบ.ราคาขาย 5 แสนบาทต่อตรม.

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงานที่จะส่งผ่านสู่ yield ที่สูง งวดผลการดำเนินงานปี 61 ที่มีกำไรสุทธิ 1,728 ลบ. +42%  พลิกจากหดตัว 36% ในปี 60 บริษัทประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 0.16 บาท XD 3 พ.ค. วันจ่าย 23 พ.ค. yield สูงราว 5.3% แนะนำลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล

JKN Analyst Meeting (ราคาปิด 8.15 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 15.80)

·      ผบห.ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ราว 20% จากทั้งยอดขายในประเทศจากจำนวนช่องทีวีดิจิตอลที่เข้ามาติดต่อซื้อคอนเทนต์เพิ่มขึ้น และยอดขายต่างประเทศจากการไป roadshow งานเทศกาลภาพยนตร์ทั้งสิ้น 7 ประเทศ ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมือทั้งสิ้น 666 ลบ. แบ่งได้เป็นในประเทศ 379 ลบ.และต่างประเทศ 287 ลบ. อีกทั้งบริษัทได้วางงบลงทุนสำหรับปีนี้ที่ราว 900 ลบ. แบ่งได้เป็นลงทุนในสิทธิคอนเทนต์ 800 ลบ. ลงทุนในช่อง CNBC News ราว 50 ลบ. และลงทุนใน Broardcast system ราว 50 ลบ. สำหรับประเด็นเรื่องลูกหนี้การค้า ซึ่งผบห.คาดว่าจะได้รับชำระราว 300 ลบ. ภายในช่วง 1Q62 ในมุมมองของฝ่ายวิจัย เรายังคงมีความกังวลในเรื่องประเด็นการชำระหนี้ของลูกหนี้การค้าที่ล่าช้าเนื่องจาก จะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของบริษัท ซึ่งอาจทำให้มีความจำเป็นต้องกู้ยืมระยะสั้น ส่งผลให้เกิดภาระดอกเบี้ยตามมา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับกำไรของบริษัทหากการสร้างการเติบโตของรายได้ไม่เป็นไปตามคาด โดยเราคาดกำไรสุทธิปี 62 ที่ราว 342 ลบ. +50%YoY คาดจะเติบโตสูงจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น

·      + IVL ซื้อกิจการ UTT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งทอสำหรับถุงลมนิรภัยในเยอรมนี-เม็กซิโกเสร็จแล้ว (ที่มาข่าวหุ้น)    

·      + U กรมธนารักษ์เตรียมเสนอโครงการบูติกโฮเต็ล บริเวณโรงภาษีร้อยชักสามเข้าครม.พรุ่งนี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า มูลค่าโครงการกว่า 3 พันล้านบาท หลังจากนั้นเซ็นสัญญากับ U เดินหน้าก่อสร้างโครงการ (ที่มาข่าวหุ้น)