'เจบิค' รุดพบนายกฯ รายงานลงทุน 'อีอีซี'
"บิ๊กเจบิค" รุดพบ "นายกฯประยุทธ์" รายงานความคืบหน้าโครงการใน "อีอีซี" เน้นประโยชน์ร่วม 3 ชาติไทย-จีน-ญี่ปุ่น
วันนี้ (3พ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายทะดะชิ มะเอะดะ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. โดยภายหลังการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ
กรรมการผู้อำนวยการ เจบิค รายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการผลักดันโครงการต่างๆ ภายใต้อีอีซี เช่น โครงการระบบรางต่างๆ โดยเน้น triple win คือ ได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทั้งไทย ญี่ปุ่น และจีน โดยจะเป็นโครงการแรกที่ญี่ปุ่นและจีนจะทำงานร่วมกัน และการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ซึ่งนายกฯ ยินดีที่ทราบว่าญี่ปุ่นและจีนมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเป็นโครงการแรก จะส่งผลดีต่อความร่วมมือในภูมิภาค
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า โอกาสนี้นายกฯ แสดงความขอบคุณที่ เจบิค จะช่วยทำการศึกษา Smart City ใน อีอีซี ด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอีอีซีในภาพรวม และขอให้ เจบิค หารือกับกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการอีอีซี อย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อให้ทั้ง 2 โครงการมีความคืบหน้า และย้ำว่าไทยยินดีสนับสนุนภาคเอกชนญี่ปุ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่าง ๆ ของอีอีซี เพิ่มเติม
ขณะที่กรรมการผู้อำนวยการ เจบิค กล่าวว่า ญี่ปุ่นจะส่งผู้แทนระดับสูงมาเข้าร่วมในการประชุมสุดยอด ACMECS ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 15-16 มิถุนายน 2561 โดยนายกฯ หวังว่า ญี่ปุ่นจะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ CLMVT ในสาขาต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยในการประชุมดังกล่าวจะมีการประกาศแผนแม่บท ACMECS ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค 2. การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการระดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ACMECS และ 3. การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม
"นายกฯ ได้ย้ำให้ เจบิค แบ่งปันประสบการณ์และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับในโครงการต่างๆ ที่ เจบิค มาร่วมลงทุน เนื่องจากปัจจุบันการประชาสัมพันธ์และการรับรู้ของภาคประชาชนมีความสำคัญต่อความสำเร็จในทุกโครงการและการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ นายกฯ ได้แสดงความขอบคุณที่ เจบิค ที่ช่วยประสานงานการประชุม High Level Joint Commission (HLJC) ครั้งที่ 4 ในเดือนกรกฎาคม อีกทางหนึ่ง ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วม โดยไทยมีความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับ CPTPP โดยขอให้ทางญี่ปุ่นช่วยศึกษาผลกระทบที่อาจมีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมยา ตลอดจนช่วยติดตามความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง และการลงทุนในระบบขนส่งทางรางเส้นทางอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร" พล.ท.วีรชน กล่าว