ทะลวงค่ายกลจตุจักร เสน่ห์ออฟไลน์ยุค 4.0

ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสน่ห์ความหลากหลาย ทว่าพ่อค้ากลับต้องหนีตาย กับภาวะมีคนเดินแต่ยอดขายไม่วิ่ง เพราะหมดเวลากับการเข้าค่ายกล สาละวนหาของที่ตัวเองต้องการไม่พบสักที
ตลาดนัดจตุจักร หรือ เจเจมาร์เก็ต ที่มีอายุกว่า 40 ปี เต็มไปด้วยสีสัน จนกลายเป็นเป้าหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทยต้องไม่พลาดมาชมตลาด
นั้นเพราะตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ เป็นแหล่งรวมของสินค้าจิปาถะ ตั้งแต่สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าแฮนด์เมด ของที่ระลึก ต้นไม้ ยันของใช้จากโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงงานศิลปะฯลฯ จากพ่อค้าแม่ขายกว่า 10,000 แผงค้า
ทว่าชีพจรธุรกิจตอนนี้ของผู้ประกอบการกลับเฉาลงเรื่อยๆ จากการนั่งเฝ้ามองนักท่องเที่ยวที่เดินวนในตลาดกว่า 4 แสนคนต่อวัน โดย 70-80% เป็นชาวต่างชาติ
พวกเขาแค่มาชมตลาด ซื้อสินค้าเป็นส่วนน้อย !!
ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดิน ประธานกรรมการบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ย้ำว่า สถานการณ์การขายในตลาดจตุจักรช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่า เริ่มซบเซา แม้จะมีคนมาเดินจำนวนมาก นั่นเพราะคนมาเดินตลาด แต่ไม่ซื้อของ ส่วนคนที่ตั้งใจมาซื้อสินค้า ก็ค้นหาสิ่งที่ต้องการไม่พบ หากมีเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงในการช้อป
นี่คือ“การสูญเสียโอกาส”ที่เกิดขึ้นในตลาดนัดจตุจักร !!
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีน (นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่สุดในไทย) ในปัจจุบันเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) จึงพกมือถือเป็นกระเป๋าเงินสดเดินชมสินค้า แล้วจ่ายเงินจากการจิ้มหน้าจอมือถือ (E-payment)
“ยุคนี้ลูกค้าต้องการความสะดวกรวดเร็ว นักท่องเที่ยวไม่พกเงินสด ไม่ต้องการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม หากลูกค้าติดกระบวนการเหล่านี้แล้ว เดินออกไปจากร้านแล้ว ยากที่จะกลับเข้ามาหาร้านอีกทั้ง อาจจะหาไม่เจอ หรือถอดใจกับค่ายกลในตลาดนัดจตุจักรที่สร้างความสับสนให้ผู้มาเยือนหน้าใหม่ไม่น้อย”
จึงกลายเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างการร.ฟ.ท.กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เข้ามาช่วยสร้างแพลตฟอร์ม (แอพพลิเคชั่น บนมือถือ) พาร้านค้าออฟไลน์ที่มีเสน่ห์ เข้าไปไว้บนออนไลน์ เพื่อเป็นเครื่องมือให้ขาช้อปทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่าได้มาเยือน ได้ใช้บริการตลาดตรงวัตถุประสงค์ทั้งคนอยากเดินชม และคนอยากช้อป ได้สนุกกับการเดินตลาดแบบไม่หลงทาง
โดย SCB เป็นผู้ลงทุนพัฒนาตลาดนัดจตุจักรไปไว้บนแอพในมือถือ ชื่อ Chatuchak Guide ลายแทงให้ขาช้อปได้ชอปปิงง่ายขึ้น เพราะในแอพจะรวบรวมร้านกว่า 8,000 แห่งบนแผงตลาดนัดจตุจักร ค้นหาร้านจากหมวดหมู่ เมื่อเลือกร้านที่โดนได้แล้ว ก็ใช้แอพพาไปตามเส้นทางร้านเป้าหมายได้ในเวลารวดเร็ว
เรียกว่า ประหยัดเวลาและเจอเป้าหมายแท้จริง ถือเป็นเครื่องมือทำให้ตลาดนัดยุคก่อนกลับมามีชีวิตชีวา บนยุค 4.0 ขณะเดียวกัน พ่อค้าแม่ขายก็อยู่รอด (Survive)
“เป็นการผสมผสานทั้งตลาดที่มีเสน่ห์อยู่ในตัวเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ที่คนรู้จักของผู้คนทั่วโลก ช่วยให้พ่อค้าขายของได้ ลดการสูญเสียโอกาสทำให้คนมีโอกาสเลือกเดินซื้อสินค้าได้มากขึ้น”
ศิริพงศ์ บอกว่า เพียงแค่เริ่มต้นทดลองใช้ไม่กี่เดือน กับร้านค้ากว่า 2,000 แห่งในจตุจักร พ่อค้าก็สามารถขายสินค้าผ่านแอพได้แล้วกว่า 200 ล้านบาท
ด้าน จันทร์เพ็ญ วิชชิจันทกรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน SMEs Business Solution ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มองการเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาแอพว่า เป็นการช่วยขยายโอกาสและช่องทางให้กับร้านค้าจตุจักร เพียงแค่เปิดตัวไปมีนักท่องเที่ยวดาวโหลดแอพนี้แล้วกว่า 100,000 ครั้ง มีการเติบโตของยอดซื้อขายผ่านช่องทางการจ่ายเงินทั้งเครื่องรูดบัตร EDC , QR code แม่มณี และ SCB EASY เพิ่มขึ้น
ถือเป็นการทำตลาดจริงขึ้นมามีชีวิตในอากาศ หรือเป็นโลกเสมือนจริงที่เกื้อกูลกันทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
ไม่เพียงแค่พัฒนาแอพ Chatuchak Guide ที่อนาคตจะถูกขยายเป็นอีมาร์เก็ตเพลส (ตลาดนัดการค้าบนออนไลน์)ที่ทำการซื้อขายได้ นำร่องพาผู้ประกอบการกว่า 2,000 รายขึ้นมาบนแอพ โดยมีเป้าหมายภายใน 1 ปี จะพาผู้ประกอบการกว่า 8,000 รายที่ค้าขายในตลาดนัดจตุจักร ค้าขายเป็นทั้งหน้าร้านบนแผง และหน้าร้านออนไลน์ ขยายโอกาสทางการค้า
SCB ยังจะเข้าไปจัดโปรแกรมอบรมพ่อค้าบนตลาดนัด ให้ค้าขายออนไลน์ได้ครบ ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งใช้แอพ โค้ดราคา ถ่ายรูป และตอบโต้ บนหน้าจอ รวมถึงปิดการขาย
โดยการพัฒนาตลาดนัดออนไลน์ให้สมบูรณ์จะเพิ่มแอพลิเคชั่น Super Seller ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นหน้าร้านเชื่อมต่อกับลิงค์ของ Chatuchak guide เพื่อใช้สำหรับการจัดการหน้าร้านออนไลน์ อาทิ การอัพเดทสินค้าใหม่ และการจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า สำหรับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาอัพเดทข้อมูลร้านที่น่าสนใจ เปิดแผงค้าขายแบบเรียลไทม์
ขณะที่ บุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด บริษัทที่รุกด้านการค้าออนไลน์มากกว่า 17 ปี ร่วมมือกับ SCB ในการถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ กลยุทธ์การค้าขายบนโลกออนไลน์ให้กับพ่อค้าตลาดนัดจตุจักร ที่เคยชินกับการค้าขายหน้าแผงให้สนุกกับการค้าขายบนโลกออนไลน์ไปในคราวเดียวกัน
“หากไม่มีแอพการค้าขายบนออนไลน์ พ่อค้าอาจจะนั่งเหงา หากไม่มีคนมาซื้อหน้าแผง แต่ถ้าใช้แอพออนไลน์ ก็เพิ่มช่องทางทั้งค้าออนไลน์ และออฟไลน์ไปพร้อมกัน กวาดลูกค้ากลุ่มที่ไม่มีเวลา หรือมีข้อจำกัดด้านเวลา ก็พร้อมส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
เขาบอกว่า ผู้ประกอบการตลาดนัดจตุจักร ส่วนใหญ่เป็นทายาทรุ่นสองที่รับช่วงต่อจากคนรุ่นพ่อ ทำให้เปิดใจเรียนรู้การขายผ่านโลกออนไลน์ได้ไม่ยาก โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการขายสินค้าผ่านออนไลน์แล้ว 20% เหลืออีก 80% ค่อยๆดึงมาอบรมเรียนรู้เพื่อสร้างโอกาส ตั้งแต่ การถ่ายรูปสินค้า การสร้างเนื้อหา การใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ดึงดูดความสนใจบนโลกออนไลน์
เขามองว่า เมืองไทยมีตลาดนัดตลาดนัดจตุจักร มีเสน่ห์และมีคนเดินจำนวนมากอยู่แล้ว ถือเป็นมรดกสำคัญที่ควรรักษาและพัฒนาต่อยอดให้เติบโตสู่ยุค 4.0 โดยการพัฒนาช่องทางการขายออฟไลน์และออนไลน์คู่กัน หนุนให้ธุรกิจเติบโตแบบเกื้อกูนกัน
“เราทำหน้าที่เป็นโค้ช หรือเมนเทอร์ ถ่ายทอดวิชากลยุทธ์การค้าขายบนโลกออนไลน์ ซึ่งพ่อค้าบางคนอาจจะเคยชินกับแบบเดิม ก็ต้องสอนการใช้แอพ และวิธีการดึงดูดคน เพราะสินค้าในตลาดนัดจตุจักรนั้นมีเสน่ห์และมีความพิเศษอยู่แล้ว หากได้ต่อยอดพัฒนาให้เข้ากับโลกออนไลน์ก็จะไปต่อและแข่งขันได้ฉิว”







