สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5-9 มีนาคม 2561

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 5-9 มีนาคม 2561

“เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ จากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวประกาศลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ ทยอยลดช่วงติดลบ และขยับฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตามการปรับโพสิชันของนักลงทุนก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์

- ในวันศุกร์ (9 มี.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 31.36 บาทต่อดอลลาร์ จากระดับ 31.45 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 มี.ค.)  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.30-31.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจต้องจับตาทิศทางตลาดต่างประเทศในช่วงต้นสัปดาห์ (ซึ่งตอบรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะรายงานเพิ่มเติมระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีราคานำเข้า/ส่งออก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านในเดือนก.พ. ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ตลอดจนตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐ เดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามประเด็นต่อเนื่องเกี่ยวกับมาตรการการค้าระหว่างประเทศ

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,775.37 จุด ลดลง 2.02% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 4.18% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 73,139.86 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 483.87 จุด ลดลง 2.75% จากสัปดาห์ก่อน

- ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ประกอบกับมีแรงกดดันเพิ่มเติมช่วงปลายสัปดาห์ในหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันตลาดโลก ขณะที่ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ก็ยังคงมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางประเด็นกดดันจากการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐ

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,760 และ 1,745 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,790 และ 1,800 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ประเด็นต่อเนื่องในเรื่องภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน เดือนก.พ. และดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน เดือนม.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน เดือนก.พ.