ชีวาทัยปรับโครงสร้างรอบ10ปี สร้างสมดุลรายได้แนวราบ-คอนโด

ชีวาทัยปรับโครงสร้างรอบ10ปี สร้างสมดุลรายได้แนวราบ-คอนโด

ชีวาทัย ประกาศปรับกลยุทธ์ด้านรายได้ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี มีเป้าหมายภายใน 2 ปี จะสร้างสมดุลระหว่างโครงการคอนโดมีเนียมและแนวราบมากขึ้น คือสัดส่วนรายได้ 55% และ 40% ส่วนอีก 5% มาจากโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่า จากที่ก่อนหน้านี้มาจากคอนโดเป็นหลัก 90%

บุญ ชุนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เพราะโครงการแนวราบจะทำให้ให้เกิดการรับรู้รายได้ที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอซึ่งต่างจากคอนโดที่การรับรู้จะสูงต่อเมื่อมีโครงการเปิดใหม่ และยังเชื่อว่าความนิยมในการมีที่อยู่อาศัยของคนเอเชียนั้น ความต้องการบ้านแนวราบก็ยังเป็นปัจจัย 4 แม้คอนโดจะตอบสนองเรื่องความสะดวกในการใช้ชีวิตก็ตาม และก็ยังหาซื้อที่ดินสำหรับสร้างคอนโดยากขึ้นด้วย


ดังนั้นแผนการเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่า 5,915 ล้านบาทภายในปีนี้ จึงมีโครงการคอนโดเพียง 2 แห่งเท่านั้น ที่เหลืออีก 5 แห่งเป็นบ้านแนวราบที่มีแบรนด์ครบเซกเมนต์ และในจำนวนนี้มี 2 โครงการ ที่เป็นโครงการร่วมทุนกับคอนโดแมน โดยชีวาทัยถือหุ้นกว่า 70%

คอนโด 2 แห่งที่จะเปิดตัวปีนี้ได้แก่ ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ พื้นที่ 1.5ไร่ จำนวน 155 ยูนิต มูลค่า 954 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ กำหนดราคาขายเฉลี่ย 1.8-2 แสนบาท/ตร.ม. และโครงการฮอลล์มาร์ค เกษตรนวมินทร์ บนพื้นที่ 5 ไร่ 480 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท ราคา 7-8 หมื่นบาท/ตร.ม. คาดว่าจะสร้างเสร็จในอีก 2 ปี ส่วนกลุ่มเป้าหมายจะจับ 2 ตลาด โดยชีวาทัยจับตลาดกลางบนราคา 1 แสนบาท/ตร.ม. ขณะที่ฮอลล์มาร์คจะราคาลดหลั่นลงมา 

ขณะที่โครงการแนวราบมีการพัฒนาใน 3 แบรนด์คือชีวาวัลย์ที่ราคาแพงที่สุดโดยในไตรมาส 4 จะเปิดตัว 1 โครงการได้แก่ ชีวาวัลย์ พุทธมณฑลสาย 1 เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 53 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ราคาขายเฉลี่ย 19 ล้านบาทมูลค่า 1,226 ล้านบาท ส่วนชีวารมย์ ราคา 5-10 ล้านบาท ยังไม่มีการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ ส่วนลำดับรองลงมาจากได้แก่ชีวาโฮมราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทลงมา ในปีนี้เปิด 2 โครงการได้แก่ ชีวาโฮมรังสิต-คลอง 4 ขนาด 275 ยูนิตมูลค่า 700 ล้านบาท และชีวาโฮม ประชาอุทิศ 90 ขนาด 391 ยูนิต มูลค่า 885 ล้านบาท

ด้านโครงการร่วมทุนที่ประกาศไปแล้วและคาดว่าจะขายในปีนี้ได้แก่ ชีวาฮาร์ท สุขุมวิท ทาวน์โฮมในซอยสุขุมวิท 62/1 มูลค่าโครงการ 180 ล้านบาทและชีวาฮาร์ท ทองหล่อในซอยสุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาทและราคาขายจะอยู่ที่ราว 35 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งโครงการชีวาฮาร์ท จะเป็นการนำที่ดินในเมืองซึ่งนิยมสร้างคอนโดมาพัฒนาเป็นบ้านเพื่อให้ผู้ซื้อได้ครอบครองที่ดิน

“ปีนี้เป็นปีที่ 10 ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากการพัฒนาโครงการใหม่ๆ แล้วยังมีแผนสร้างความเชื่อมั่นด้วยโปรแกรมดูแลหลังการขาย 2 เรื่องได้แก่ ชีวาทัยโซไซตี้โดยนำเอาอินไซต์ที่เป็นความต้องการของลูกค้ามานำเสนอเพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด เช่น รับค่าแนะนำสมาชิกต่อสมาชิก,ส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำ และบริการชีวาทัยแคร์ผู้ช่วยส่วนตัวให้คำปรึกษาสอบถามการใช้งานและแนะนำการดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ”

นอกจากการปรับโครงสร้างรายได้ และแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ปีนี้ชีวาทัยยังตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อที่ดิน 3,500 ล้านบาท มีเป้าหมายหาที่ดินสำหรับสร้างคอนโดโลว์ไรซ์ 2 แปลง,ไฮไรซ์ 2 แปลง, บ้านแนวราบ 2 แปลง, โฮมออฟฟิศ 4 แปลง, ชีวาฮาร์ท 1 โครงการ และยังมองหาที่ดินแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาหลายโครงการรวมกันอีก 1 แปลง หรือเป็นทาวน์ชิปขนาดใหญ่เป้าหมายขนาด 100 ไร่ ขึ้นไป มีทำเลที่มีศักยภาพหลายแห่ง โดยมองว่าหากสามารถพัฒนาโครงการในลักษณะดังกล่าวได้จะได้ระดมทรัพยากรลงไปพัฒนาในที่แห่งเดียวกันได้ภายในช่วง 5-10 ปี

ในส่วนของรายได้ปีนี้ ตั้งเป้า 2,400 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 2,040 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นรายได้ที่สูงกว่าเป้าหมาย เพราะตั้งไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และก็ยังเชื่อว่ารายได้จะยังเติบโตต่อไปใน 2 ปี โดยตั้งเป้าเติบโต 20% ต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นว่าปีนี้ยังมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยปีหน้าคาดจะมีรายได้ 2,880 ล้านบาท ่ส่วนกำไรปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 6-10% หรืออยู่ในระดับ 7.5% เท่ากับปีที่ผ่านมา