MORNING CALL ACTION NOTES (1 พ.ย.60)
มีหลายปัจจัยบวกหนุน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวไปมาทั้งแดนลบและบวก ก่อนปิดบวกเล็กน้อย นำโดยกลุ่ม TRANS หลัง AOT เตรียมขอเข้าบริหาร 29 สนามบิน ขณะที่ Fund Flow ยัง net sell โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,721.37 จุด (+2.71 จุด) Volume 5.56 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -400.10 ลบ. TFEX Net +3,851 สัญญา ตราสารหนี้ -99 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นได้แรงหนุนหลังสหรัฐเผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 ปีและดัชนีภาคการผลิตเขตชิคาโกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี
+น้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก เห็นพ้องที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า
+ ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.6% เกินคาดในไตรมาส 3 ขณะว่างงานต่ำสุดรอบเกือบ 9 ปี
+นายกฯ สั่งคลังออกมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” กระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปี พร้อมยืดเวลาให้นานขึ้นกว่าเดิม
+ธปท. คาด GDP Q3/60 มีแนวโน้มขยายตัว 4% โดยในเดือนก.ย.โตต่อเนื่องตามส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภค-ลงทุนเอกชนขยายตัวดี
+ การประกาศเอกราชของรัฐสภาแคว้นกาตาลุญญาถือเป็นโมฆะ
+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติ Net Sell 5 วันติดต่อกันที่เกือบ 7.4 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าสู่ 33.20 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือนก.ย. ราว 9.9 หมื่นสัญญา)
** 1 พ.ย. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐคาดคงอัตราดอกเบี้ย โดยเริ่มปรับลดงบดุล
ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยูโรโซน การเมืองยุโรป ราคาน้ำมัน รวมทั้งภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่องในช่วงปลายปี แต่ยังมีเรื่อง fund flow ผันผวน คาดวันนี้ SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,710-1,730 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- มาตรการ ช็อปช่วยชาติ CPALL COM7 SYNEX ROBINS HMPRO MAKRO BJC MINT
- ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 99.9$/Ton สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ BANPU
- การปฎิรูปภาษีของสหรัฐ IVL EPG
- กลุ่มโรงกลั่นคาดกำไร Q3/17 เติบโต
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG HARN FTE ATP30 COMAN XO TPCH SYNEX ASIMAR JWD ERW CKP CPN
หุ้นแนะนำพิเศษ
Analyst Meeting : SPALI (ราคาปิด Bloomberg Consensus )
- Backlog ณ ปลาย Q3 เกือบ 4 หมื่นลบ. ทยอยโอนถึงปี 2564 แนวโน้มกำไร 3Q60 เติบโตทั้ง QoQ และ yoy และคาดจะสูงสุดรายไตรมาสจากยอดโอนที่รับรู้เป็นรายได้สูงกว่าไตรมาสที่แล้วและช่วง 3Q59 แถมยังมีกำไรพิเศษจากการขายอาคารสำนักงานในตปท. ส่วน Q4 มียอดโอนใกล้เคียงกับ Q3 หนุนรายได้ทั้งปีทำได้ตามเป้าหมายของผู้บริหารที่ 5 หมื่นลบ.
- ความเห็น คาดกำไร 3Q60 ราว 1,400 – 1,700 ลบ. เติบโตจาก 1,343 ลบ.ใน 2Q60 และ 848 ลบ.ใน 3Q59 ทั้งนี้ Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 5.3 พันลบ.+9% เรายังมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจาก backlog แข็งแกร่ง และความสามารถในการรักษาระดับการทำกำไร ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในอนาคตยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังมีประเด็นน่าสนใจจาก SPALI-W4 ที่คาดจะเริ่มซื้อขายราวเดือนพ.ย.นี้ อัตราการแปลง 1:1 ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 4 บาท อายุ 1 ปี ใช้สิทธิทุกไตรมาส เริ่ม 20 ม.ค. 2561 ซึ่งมีราคาเหมาะสมอยู่ที่ราว 22.11 บาท
หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก-ตลาด mai : FLOYD (ราคา IPO 2.80 บาท)
- บมจ.ฟลอยด์ ประกอบธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบ โดยแบ่งตามลักษณะงานได้ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆคือ งานให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร ซึ่งเป็นรายได้หลักในสัดส่วน 40-50% 2.งานให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบประปา ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย สัดส่วนรายได้ประมาณ 25-35% และ 3.งานให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ในสัดส่วน 20-30%
- ปี 59 มีรายได้ 542 ลบ. โต 9% YoY กำไรสุทธิ 115 ลบ. เพิ่มขึ้น 75% YoY 1H60 มีกำไรสุทธิ 12.48 ลบ ลดลง -80.5% YoY ซึ่งเกิดมาจากลูกค้าหลักชะลอการเปิดโครงการ และความล่าช้าในการรับรู้รายได้ที่อยู่นอกเหนือแผนงาน
- เงินทุนที่ได้จากการเสนอขาย IPO จำนวน 252 ล้านบาท นำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการประมาณ 159 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 80 ล้านบาท ใช้ลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์อบรม
- ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 33 เท่า เทียบกับกลุ่มบริการรับเหมาฯ (CONS) ใน SET ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 30.55 เท่า
หุ้นมีข่าว
Ø (+) BPP (ราคาปิด 30.75 Bloomberg Consensus 28.84) ทำสัญญาลงทุน 51% โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 1 โครงการ ขนาด 200 MW คาด COD ใน H2/66
Ø ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการเข้าลงทุนในโครงการ solar ที่ญี่ปุ่นของ BPP เพื่อเป็นการต่อยอดการเติบโตหลังจากปี 63 โดยในปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อต่อยอดการเติบโต ทั้งนี้บริษัทมองหาการลงทุนทั้งรูปแบบ M&A และ Greenfield ในประเทศเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย ญี่ป่น และจีนเพื่อต่อยอดการเติบโต โดยในปัจจุบันบริษัทมี D/E Ratio ต่ำเพียง 0.05 เท่าทำให้มีศักยภาพในการลงทุนอีกมาก
Ø (+) ETE (ราคาปิด 2.94 ราคาเหมาะสม 5.06(กำลังทบทวนประมาณการเชิงลบ)) คว้างานเพิ่ม 131 ล้านบาท ดัน Backlog แตะ 4.4 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงปี 2561 พร้อมยื่นประมูลงานวิศวกรรมอีก 3 พันล้านบาท คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า 1-2 โครงการ หนุนรายได้ปี 2560 โตตามเป้า 15-20% เล็งร่วมมือพันธมิตร ทำธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป (ที่มาทันหุ้น)
Ø (+) CPNRF ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.2879 บาท XD 9 พ.ย. วันจ่าย 27 พ.ย. ก่อนการแปลงเป็นกอง REIT ในปลายปีนี้
Ø ความเห็น CPN ได้ประโยชน์จากการเป็นผู้ถือหุ้น CPNRF อัตราส่วน 26.69%
Ø WICE จะลงทุนราว 115 ลบ.เข้าถือหุ้น 80% บ.รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในจีน
Ø "ไทย อัลลิแอนซ์"จะทำเทนเดอร์ฯหุ้น SIS ทั้งหมด คาดเสนอซื้อหุ้นละ 7 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด