ค่ายประกันงัด ‘เบี้ยมะเร็ง’ ชิงลูกค้า

"ค่ายประกัน" รุกทุกช่องทาง งัดเบี้ยมะเร็งชิงลูกค้า
จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า มะเร็งถือเป็นโรคร้ายแรงอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทยสูงสุดกว่า 60,000 คนต่อปี และมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นถึงปีละ 112,392 คน
“มะเร็ง” จึงเป็นภัยคุกคามชีวิตที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่รักรวมถึงความกังวลด้านภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวที่สูง ซึ่งไม่เพียงตัวผู้ป่วยเองที่ได้รับผลกระทบแต่ยังรวมไปถึงครอบครัวและคนที่รัก บางรายอาจถึงขั้นต้องขายทรัพย์สินขายบ้านเพื่อนำเงินมารักษาตัว
อย่างไรก็ตาม ยังมีทางเลือกที่ช่วยให้คนไทยได้เตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน ด้วยตระหนักว่า “มะเร็ง” สามารถรักษาได้ หากตรวจพบเร็วแต่เนิ่นๆ ยิ่งรักษาได้เร็ว ก็ยิ่งมีโอกาสหายสูง
แต่เมื่อปกป้องให้เกิดมะเร็งไม่ได้สิ่งหนึ่งที่ทำได้ นั่นคือ“การสร้างความคุ้มครองครบวงจรทุกระยะ”
ด้วยแนวคิดเช่นนี้ช่วงที่ผ่านมานี้เราจึงเห็นค่ายประกันชีวิตและวินาศภัยโหนกระแสมะเร็งงัดลูกเล่นใหม่ๆ จ่ายเบี้ยเหมาๆ แบบสบายกระเป๋าออกมาสู้ศึกชิงตลาดครึ่งปีหลังกันสุดฤทธิ์ครบทุกช่องทางกันเลยทีเดียว
แน่นอนว่าบริษัทประกันชีวิตที่ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพเสมอมาอย่าง บริษัท อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “พัชรา ทวีชัยวัฒนะ” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์เปิดเผยว่าในปีนี้ตัวที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ประกันมะเร็งหายห่วง” (Cancer No Worries) ด้วยเบี้ยประกันภัยไม่แพง เริ่มต้นเพียงเดือนละ 298 บาท (เบี้ยประกันแผน 1 สำหรับเพศหญิง อายุ 35 ปี)
ขณะที่ให้ความคุ้มครองดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจร ไม่ว่ามะเร็งระยะใด ทั้งการตรวจวินิจฉัย การรักษา การติดตามผล รวมถึงการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ด้วยมูลค่าผลประโยชน์สูงสุดถึง 9 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดวงเงินรักษาให้ใหม่ หากโรคมะเร็งชนิดเดิมกลับมาอีกภายใน 5 ปีหลังจากตรวจพบครั้งแรก โดยสามารถเบิกค่ารักษาโรคมะเร็งได้ตามจริง ภายใต้วงเงินค่ารักษา 3 ล้านบาทต่อมะเร็ง 1 ชนิด สูงสุด 9 ล้านบาท (แผน 3) และให้ความคุ้มครองต่อเนื่องสูงสุดจนถึงอายุ 85 ปี และค่าใช้จ่ายจากการรักษาที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลก็สามารถเบิกได้ เช่น ค่าเคมีบำบัด ค่าฉายแสง
ขณะเดียวกันแม้แต่ช่องทางขายผ่านแบงก์ทีเงียบหายไปซักพักใหญ่ ยังกลับมาเอาดีทางนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับSCBLIFEออกแบบประกัน “เพราะห่วงใยคุ้มครองโรคมะเร็ง” ครอบคลุมโรคมะเร็งทุกระยะ ตรวจพบโรคมะเร็งมีเงินก้อนรักษาตัวเองเลือกรับเงินก้อนสูงสุดถึง 3 ล้านบาท, มีเงินชดเชย วันละ 5,000 บาท สูงสุด 1,200 วัน หากต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
เนื่องจากโรคมะเร็ง, ตรวจเจอมะเร็งระยะลุกลาม ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอีกต่อไป โดยยังคงได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง และเงินไม่หายไปไหน ไม่ว่าจะเป็น หรือไม่เป็นมะเร็ง ก็มีเงินก้อนคืน 1.5 ล้านบาท เมื่ออายุครบ 65 ปีเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,428 บาท (เบี้ยประกันแผน 1 สำหรับเพศหญิง อายุ 35 ปี)
ล่าสุด ฝั่งประกันวินาศภัย บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แรบบิทโบรกเกอร์ประกันภัยนำเสนอแบบประกันภัยโรคมะเร็ง “Cancer Sever” ผ่านช่องทางออนไลน์ครั้งแรกขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาในการลงทะเบียนเพียง 5 นาที และทราบผลอนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมเข้าถึงทุกกลุ่มตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานจนถึงระดับผู้บริหารด้วยความคุ้มครอง 4 แพ็คเกจ
ได้แก่ 1. Smart Plan เมื่อต่ออายุเพิ่มทุนไม่เพิ่มเบี้ย 2. Extra Care ได้เงินก้อนพร้อมเงินชดเชยรายเดือน 3. Cancer Lite ได้เงินก้อนพร้อมเงินชดเชยรายเดือนและ 4. Plus 2 in 1 เพิ่มทุนและจ่ายเพิ่ม 2 เท่าอย่างไรก็ตามเบี้ยประกันภัยที่คงที่เจอจ่ายจบครบทุกระยะของการเป็นมะเร็งเริ่มต้นวันละ 5 บาท หรือทั้งปีที่ 1,920 บาท ให้ความคุ้มครองสูงสุด 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางด้านนวัตกรรมประกันภัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่ออกมาให้ลูกค้าได้ลองใช้บริการกันแบบแหวกแนวสุดๆ ในเวลานี้ ยกให้โปรเจคยักษ์ด้านการดูแลสุขภาพ “Premier Health Solutions” ของ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านสุขภาพเปิดตัว “myTHAIDNA” ที่สามารถตรวจสุขภาพผ่านDNA
ทั้งนี้ การรับสิทธิ์ซื้อการตรวจ “myTHAIDNA” เพียงซื้อแบบประกันภัยของบริษัท ที่มีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป โดยเลือกชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี และชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์ สำหรับลูกค้าใหม่ และชำระเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 12,500 บาทขึ้นไปต่อกรมธรรม์ สำหรับลูกค้าปัจจุบันจะได้รับสิทธิ์ในการซื้อการตรวจในราคา 7,000 บาท (จำกัด 1 สิทธิ์/1 กรมธรรม์) ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2560-30 มิ.ย. 2561 หรือจนกว่ามีผู้รับสิทธิจนครบจำนวน
เชื่อว่าหลายคนอ่านแล้ว แต่จะตัดสินใจซื้อประกันมะเร็งจะดีหรือไม่ ถ้าถามว่า มีประกันตัวนี้ช่วยดูแลแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย หากมะเร็งเกิดขึ้นกับเราขึ้นมา คำตอบ ที่ได้ คือดีแน่นอน แต่การตัดสินใจซื้อนั้นขอให้ทุกคนตรวจสอบความต้องการและความพร้อมของแต่ละคน ลองเปรียบเทียบผลตอบแทนแต่ละตัวก่อนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดจะค้นพบประกันตัวที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับคุณแน่นอน เพราะแต่ละรูปแบบเกิดจากความมุ่งมั่นของทุกบริษัทที่เดินหน้านโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" นั่นเอง







