มั่นใจ "สัจจะ" แก้ไขฐานะทันสิ้นก.ค. คปภ.เช็คสุขภาพอุตฯประกันทั้งระบบยังแกร่ง
คปภ.เชื่อสัจจะประกัน แก้ไขปัญหาทันเส้นตายภายในสิ้นก.ค.นี้ ลุ้นได้ผู้ร่วมทุนใหม่ชัดเจน พร้อมเช็คสุขภาพอุตสาหกรรมประกันสัญญาณชีพยังแกร่ง เน้นให้กรรมการบริษัทคุมเข้มกิจการยั่งยืนและดูแลผู้เอาประกันภัยอย่างเป็นธรรม หนุนใช้ไอทีตรวจสอบอย่างจริงจังและลดต้นทุน
นายชูฉัตร ประมูลผล รองเลขาธิการด้านตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานของบริษัท สัจจะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หลังถูกสั่งหยุดรับประกันภัยชั่วคราวว่า บริษัทแก้ไขปัญหาการดำเนินงานตามที่คปภ.กำหนดเป็นไปได้ด้วยดี และสามารถจ่ายสินไหมตามปกติ เพียงแต่ไม่สามารถรับลูกค้ารายใหม่ได้
“บริษัทมีความตั้งใจอย่างมากที่จะแก้ไขปัญหา โดยเข้ามาประสานพูดคุยกับ คปภ.ตลอด ตอนนี้มีการปรับปรุงรายการบัญชี รวมถึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนธุรกิจและการดำรงเงินทุนสำรองตามกฎหมาย รายงานเข้ามาภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ตามคำสั่ง ก็ยังมีเวลาอีก 1 เดือน ยังต้องติดตามความชัดเจนอาจจะมีนายทุนใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มทุนและรีแบรนด์ดำเนินธุรกิจต่อไป น่าจะชัดเจนในช่วงกลางเดือนก.ค. เชื่อบริษัทดังกล่าวรอดตายแน่นอน ไม่น่ากังวล”
นายชูฉัตร กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมธุรกิจประกันภัยยังคงมีความแข็งแกร่ง ภายใต้ระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า (EWS) คอยติดตามฐานะทางการเงินของบริษัทประกันเพื่อให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอดูแลผู้เอาประกันภัย ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและไม่พบบริษัทที่มีปัญหาเพิ่มเติมในช่วงเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวในปีนี้ รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมา การหยุดรับประกันภัย ไม่กระทบต่อภาพรวมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในธุรกิจประกันภัยในสถานการณ์ปัจจุบัน คาดหวังให้กรรมการบริษัท ตระหนักถึงการกำกับดูแลกิจการเพื่อความยั่งยืนและดูแลผู้เอาประกันภัย อย่างเป็นธรรมและอยู่ในกรอบของกฎหมายและกฎระเบียบและเน้นย้ำให้กรรมการบริษัทเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการนำการตรวจสอบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT audit) มาใช้อย่างจริงจังและลดต้นทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมานี้ คปภ. สั่งให้บริษัท สัจจะประกันภัย หยุดรับประกันภัยวินาศภัยชั่วคราว และให้บริษัทเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานโดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้ 1. ให้บริษัทแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร ที่มีความรู้ความสามารถ 2. ให้บริษัทฯ ปรับปรุงการบันทึกรายการบัญชีให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง เพื่อให้งบการเงินของบริษัทมีความน่าเชื่อถือ และผ่านการรับรองจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต 3. ให้บริษัทจัดให้มีระบบควบคุมภายใน การสอบทาน และการคานอำนาจของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการชุดย่อย ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยจัดให้มีคู่มือการปฏิบัติงานชัดเจนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้มีการทดสอบระบบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ให้บริษัทจัดให้มีแผนธุรกิจ แผนบริหารความเสี่ยง และแผนการดำเนินงานที่สำนักงานเห็นชอบให้มีความน่าเชื่อถือ ปฏิบัติได้ โดยมีการจัดให้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบในเชิงลบ
5. ให้บริษัทต้องดำรงทรัพย์สินสำหรับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัทเงินสำรองค่าสินไหมทดแทนและเงินสำรองอื่นของบริษัทประกันวินาศภัย ตามมาตรา 23 และต้องจัดสรรสินทรัพย์ไว้สำหรับหนี้สินและภาระผูกพันตามสัญญาประกันภัย ตามมาตรา 27/4 ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด และ 6. บริษัทต้องชำระค่าปรับให้ครบถ้วนตามมติคณะกรรมการเปรียบเทียบ
ทั้งนี้ ให้บริษัทแก้ไขและดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค. 2560 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง