‘โรบอท แอดไวเซอร์’ ทางเลือกใหม่การลงทุน

"โรบอท แอดไวเซอร์" ทางเลือกใหม่การลงทุน
โรบอท แอดไวเซอร์ (Robo advisor) คือ เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ที่ให้บริการแนะนำการลงทุนแบบออนไลน์แก่นักลงทุนทั่วไป การแนะนำการลงทุนเป็นบริการในหมวดบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) ซึ่งรวมการจัดการการลงทุน (investment management) ที่ปรึกษาทางการเงิน (financial advisor) และการวางแผนทางการเงิน (financial planning) เข้าไว้ด้วยกัน
ด้วยบริการที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่และมีความหลากหลาย ทำให้ Robo advisor กลายเป็น Fintech อันดับหนึ่งที่น่าจับตามองของภาคอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก Robo advisor ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนการให้คำปรึกษาด้านการออมและการลงทุนแบบตัวต่อตัว (face to face advisory)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนในการให้บริการการแนะนำด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งแก่บุคคลทั่วไป โดยแผนการลงทุนที่ได้รับจากการใช้บริการนี้ขึ้นอยู่กับ 1. เป้าหมายการลงทุนของผู้ใช้งานแต่ละคน เช่น การวางแผนการลงทุนเพื่อเกษียณอายุ หรือ การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และ 2. ระดับความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ใช้งานแต่ละคน
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับสมดุลพอร์ตลงทุนอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสี่ยง และมีบริการเสริมอื่นๆ ที่เริ่มครบวงจรมากขึ้น อาทิ ผู้ให้บริการในสหรัฐ มีบริการลดหย่อนภาษีเงินได้จากการลงทุน (tax loss harvesting) การซื้อ-ขายเศษหุ้น (fraction shares) รวมถึงการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพื่อนำไปลงทุนต่อ (margin loans) เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการอย่าง Betterment และ Charles Schwab IP ยังมีบริการเสริมแบบพรีเมียม เช่น การเข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม High Net Worth Individuals ที่ต้องการใช้บริการด้วย Robo advisor
จุดเด่นที่ทำให้ Robo advisor เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ มี 3 ข้อหลัก ดังนี้ 1. ใช้เงินลงทุนแรกเริ่มน้อยกว่า ในอดีตสิ่งหนึ่งที่ทำให้บุคคลทั่วไปไม่สามารถใช้บริการแนะนำการลงทุนได้ คือ การกำหนดประเภทลูกค้าจากวงเงินขั้นต่ำ ที่พบว่าโดยเฉลี่ยคือตั้งแต่ 50,000 ดอลลาร์ ขึ้นไป ขณะที่ ผู้ให้บริการด้าน Robo advisor เช่น Betterment หรือ Acorn ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำสำหรับการเริ่มใช้บริการ
2. ค่าธรรมเนียมการให้บริการรายปีถูกกว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 0% - 0.5% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (Asset Under Management) ส่วนบริการแนะนำการลงทุนปกติอยู่ที่ 1- 3% ของมูลค่าสินทรัพย์ฯ และอาจมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม
3. สามารถแนะนำพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ทำผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งหมดด้วยตนเอง นอกเหนือจากนี้ ผู้ให้บริการหลายราย เช่น Wealthfront และ Assetbuilder ยังระบุสัดส่วนหน่วยลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่างๆ ได้อย่างละเอียดอีกด้วย ทำให้การลงทุนผ่าน Robo advisor เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
นักลงทุนทั่วไปในไทยมีความสนใจที่จะลงทุนด้วย Robo advisor นักลงทุนทั่วไปมีแนวโน้มใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ออนไลน์ที่มีการขยายตัวต่อเนื่องราว 30% จากในอดีต
ทั้งนี้ ผลสำรวจจาก Accenture บริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการ พบว่ากว่า 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี Robo advisor เพื่อจัดการการลงทุนส่วนบุคคล แต่เทคโนโลยีดังกล่าวยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนัก อีกทั้งบริการที่มีในประเทศยังคงจำกัดเพียงเฉพาะกลุ่มลูกค้า High Net Worth Individuals เท่านั้น
ผู้ที่จะให้บริการด้าน Robo advisor ในไทยต้องผ่านการทดสอบ Regulatory Sandbox ก่อนเริ่มใช้จริง ผู้ประกอบการทั้งสถาบันการเงินและ startup ด้าน Fintech ที่จดทะเบียนในไทยต้องเข้าร่วมการทดสอบความปลอดภัยด้านนวัตกรรมสนับสนุนบริการทางการเงิน (Regulatory Sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เริ่มขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2560 ระยะเวลา 1 ปี ซึ่งไม่เพียงเป็นการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน และศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ภาคสถาบันการเงินในประเทศ แต่ยังคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้ทำความเข้าใจในบริการด้านเทคโนโลยีทางการเงินต่างๆ รวมถึง Robo advisor ก่อนเริ่มใช้งานจริง
อีไอซี มองว่า Robo advisor เป็นโอกาสเสริมคุณภาพบริการแนะนำการลงทุนของสถาบันการเงิน โดยมองการสร้างความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นทางเลือกหนึ่งของสถาบันการเงินในการรักษา หรือขยายส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจแนะนำการลงทุน เนื่องจากสถาบันการเงินมีความพร้อมด้านเงินลงทุนแต่มีแนวโน้มขาดความคล่องตัว และความชำนาญในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้นมาใช้เอง
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน แม้ Robo advisor จะมีศักยภาพด้านการวิเคราะห์ด้วยตรรกะที่ดี แต่ยังต้องพัฒนาเรื่องความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวผู้ใช้งาน รวมถึงความยืดหยุ่นในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ดังนั้น การนำมาใช้ร่วมกับผู้ให้คำแนะนำด้านการลงทุน และบริการที่เกี่ยวข้องจึงเป็นโอกาสต่อยอดคุณภาพการให้บริการดังกล่าว







