จัดระเบียบเงินเลี้ยงชีพ เมื่อต้อง 'เกษียณก่อนกำหนด'

จัดระเบียบ "เงินเลี้ยงชีพ" เมื่อต้องเกษียณก่อนกำหนด
ในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเปราะบาง หลายบริษัทต้องเผชิญมรสุมจน “ปิดกิจการ” หรือ “ลดต้นทุนพนักงาน” ส่งผลให้ “มนุษย์เงินเดือน” ต้องถูกให้ออกจากงาน หรือ เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด หรือER ก่อนที่อายุ 55 ปีบริบูรณ์ แน่นอนว่า สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ทำงานกับนายจ้างมานาน มักจะมีคำถามตามว่า “จะทำอย่างไรกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดี?”
การไถ่ถอนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) คงต้องพิจารณา “สิทธิประโยชน์ทางภาษี” ไว้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งปกติเงินดังกล่าว จะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวน ก็ต่อเมื่อสมาชิกออกจากงานโดยมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่น้อยกว่า 5 ปี
เกษตร ชัยวันเพ็ญ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย ชี้ให้เห็นว่า พึงระวัง “เรื่องภาษี” ไม่เช่นนั้นเงินก้อนที่หวังมีไว้ใช้หลังเกษียณจะหายวับไปไม่ใช่น้อยๆ
“สมาชิกกองทุน ตัดสินใจลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยที่ยังไม่เข้าเงื่อนไขการรับยกเว้นภาษี อาจจะเสียผลประโยชน์ที่จะได้รับเงินเต็มจำนวน อีกทั้งเงินที่ได้จากกองทุนในส่วนของเงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ จะต้องถูกหักภาษีตามเงื่อนไข สมมติ สมาชิกกองทุน ER อายุ 53 ปี ตัดสินใจลาออกจากกองทุนจะได้รับเงินก้อนประมาณ 2 ล้านบาท ต้องเสียภาษีประมาณ 200,000 บาท” นายเกษตร กล่าว
“แล้วมีทางไหนให้เลือกบ้าง?”
ส่วนใหญ่ผู้จัดการกองทุน แนะนำไว้ 2 ทางเลือก เพื่อจะได้รับการยกเว้นภาษีตามเงื่อนไขของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
แนวทางแรก คือ “คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” สมาชิกไม่ต้องซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มและจะมีค่าธรรมในการคงเงินอยู่ที่ 500 บาทต่อปี
ส่วนอีกแนวทาง คือ “โอนเงินมาคงไว้ในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)” ลงทุนในระยะเวลาตามเงื่อนไขของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนครบ เพื่อได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งมีหลักการเสมือนการคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ สมาชิกไม่ต้องซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม อายุสมาชิกจะนับต่อเนื่องจากอายุการเป็นสมาชิกใน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่โอนไปกับอายุการถือหน่วยลงทุนในกองทุน RMF
โมเดลERอีก 2 ปีเงินเกษียณยังอยู่
เกษตร ยกตัวอย่างว่า หากสมาชิกอายุใกล้กำหนดเกษียณ สมมติ ถูก ER อายุ 53ปี หากเลือกคงไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งสมาชิกไม่ต้องใส่เงินเพิ่ม แต่ต้องพิจารณานโยบายการลงทุนที่เลือกไว้เดิมมีความพึงพอใจแล้วหรือไม่ โดยสมาชิกครบอายุ 55 ปี ถึงออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและได้รับการยกเว้นภาษีทั้งก้อน
กองทุน RMF ที่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ก็สามารถโอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาได้ ระยะเวลาลงทุนอีก 2 ปี จนเข้าเงื่อนไขได้รับยกเว้นภาษีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว จึงตัดสินใจขายออกมาทั้งก้อนหรือทยอยนำเงินไปลงทุนสินทรัพย์อื่นๆ
โมเดล 30-40 ปีERทำอย่างไร
นอกจากนี้ ยังมี “สมาชิก อายุ 30 กว่า-40กว่าปี” ในกรณีเดียวกัน ยังเหลือเวลาที่จะต้องลงทุนตามเงื่อนไขจนกว่าได้รับยกเว้นภาษีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ในระยะเวลานานกว่าตัวอย่างข้างต้นที่กล่าวไป “ไม่ควรออกจากกองทุนทันที” หากเป็นการเปลี่ยนงานใหม่ ให้รอประเมินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทใหม่ก่อน “ของใครดีกว่า เลือกลงทุนกับบริษัทนั้น” โดยสามารถโอนเงินไปที่บริษัทใหม่ได้ตามเงื่อนไขเดิม
แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนอาชีพ ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรองรับ สมาชิก ต้องประเมินว่า ยังพึงพอใจจะเก็บเงินเพื่อไว้ใช้ยามเกษียณหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการและขายออกก่อนกำหนดเงื่อนไข ก็ถูกเสียภาษี เสมือนทำงานมา 10 ปีเก็บเงินก้อนนี้เพื่อใช้หลังเกษียณ แต่แล้วเงินก้อนนี้ก็จะหายไปเลย ทางเลือกสุดท้ายที่ดี คือ โอนเงินไปกองทุนรวม RMF ที่ยังรักษาเงินเพื่อเกษียณก้อนนี้ไว้ได้
อย่าลืมประเมินต้นทุนแต่ละช่วงเวลา
กรองจันทร์ สกุลยง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ. ทหารไทย แนะนำว่า มี ทางเลือก 2 แนวทาง โดยทางแรก คือ “การคงเงินไว้” ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามนโยบายเดิมของบริษัทเอาไว้ก่อน จนสมาชิกอายุครบ 55 ปี หลังจากนั้นถึงลาออกจากสมาชิกกองทุนและรับเงินทั้งก้อนที่ไม่ต้องเสียภาษีได้ แต่เมื่อถึงเวลานั้น สมาชิกก็ต้องประเมินต้นทุนอีกครั้งด้วยว่า “ถ้าขายออกยังขาดทุนหรือกำไร” เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดแต่ละขณะ
แนวทางที่สอง คือ “โอนเงินไปลงทุนในกองทุน RMF” เพื่อให้ได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวน เช่น สมาชิก ER อายุ 53 ปี สามารถโอนเงินไปลงทุนในกองทุน RMF อีก 2 ปี และหลังจากนั้นสามารถโอนเงินไปลงทุนในกองทุนรวมประเภทอื่นๆ หรือสินทรัพย์อื่นได้
ขณะที่ แขขวัญ โรจน์วัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและทีมการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ. ทิสโก้ แนะนำให้กรณีที่พนักงาน ER อายุตัวยังไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ และ/หรือ เป็นสมาชิกกองทุนไม่ถึง 5 ปี ให้คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือโอนไปกองทุน RMF จนกว่าอายุตัวจะครบ 55 ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยกรณีโอนไปกองทุน RMF จะนับอายุสมาชิกกองทุนต่อเนื่องจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หลังจากนั้น เมื่อมาขอรับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ RMF จะได้รับยกเว้นภาษีทั้งจำนวนเช่นเดียวกัน
สุดท้ายไม่ว่าเงินก้อนนี้จะไปอยู่แหล่งลงทุนไหน ที่สำคัญ “สมาชิก” จะต้องไม่ลืม!! วัตถุประสงค์ตั้งต้นที่ชัดเจน ของการสะสมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยง นั้นคือ เงินที่เอาไว้ใช้จ่ายอย่างเพียงพอหลังเกษียณของคุณนั่นเอง อย่าให้ว๊าบไปในพริบตา




