‘วิสดอม’ทุ่ม1.5พันล้านผุดโรงเรียนนานาชาติเจาะอาเซียน

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และประธานโรงเรียน รักบี้ สคูล ไทยแลนด์ (Rugby School Thailand) กล่าวว่าได้ใช้งบลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท เปิดตัวโรงเรียนนานาชาติ “รักบี้ สคูล ไทยแลนด์” ที่ จ.ชลบุรี พื้นที่กว่า 180 ไร่ โดยเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ซึ่งมีที่ดินในมือทำเลดังกล่าวกว่า 2,000 ไร่ 

 ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติขนาดใหญ่ใน จ.ชลบุรี 4-5 แห่ง แต่ด้วยจุดแข็งการร่วมมือกับ Rugby School แห่งสหราชอาณาจักรหนึ่งในโรงเรียนเอกชนชั้นนำที่มีชื่อเสียงและได้รับความเชื่อถือมากว่า 450 ปี  นำเสนอหลักสูตรพัฒนาการศึกษาแบบองค์รวม ทั้งทักษะด้านวิชาการ ภาษาต่างประเทศ ความสามารถด้านเทคโนโลยี กีฬา และศิลปะ  ตอบโจทย์การศึกษาในประเทศ โดยผู้ปกครองไม่ต้องส่งบุตรหลานไปเรียนต่างประเทศ  

วางเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้กำลังซื้อสูง โดยเฉพาะครอบครัวใน จ.ชลบุรี รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยหรือทำงานในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้แผนการพัฒนาเศรษฐกิจโซนอีสเทิร์นซีบอร์ดของภาครัฐ ซึ่งจ.ชลบุรี อยู่ในโซนดังกล่าว ทำให้มีต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีของ“รักบี้ สคูล ไทยแลนด์” โดยเดือน ก.ย.นี้จะเปิดรับนักเรียนประเภทไปกลับ ตั้งแต่ชั้นพรีเนอร์สเซอรี่-ชั้นประถมศึกษาปีที่6  

ปี2561 จะเปิดรับนักเรียนมัธยมศึกษา ทั้งประเภทไปกลับและนักเรียนประจำ รวมถึงจะเริ่มโรดโชว์เพื่อเปิดรับกลุ่มนักเรียนต่างชาติในโซนประเทศเพื่อนบ้าน CLMV (กัมพูชา  ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวมทั้งกลุ่มอาเซียน และประเทศอื่นๆที่สนใจเข้ามาเรียนโรงเรียนนานาชาติในไทย มองว่าประเทศไทยจะเป็นเกตเวย์ของภูมิภาค ที่จะรองรับต่างชาติที่เข้ามาทำงานและส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาในไทย

ทั้งยังมองว่าอัตราค่าเรียนโรงเรียนนานาชาติในไทยยังมีราคาไม่สูงมาก หรือเฉลี่ยรวมค่าเรียนอยู่ที่ 7 แสน – 1 ล้านบาทต่อคนต่อปี เมื่อเทียบกับการส่งบุตรหลานไปเรียนโรงเรียนนานาชาติในอังกฤษ จะมีค่าใช้จ่ายกว่า 1.5-2 ล้านบาทต่อคนต่อปี

“มองโอกาสรองรับนักเรียนในอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน อีกทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราสูง ทำให้กำลังซื้อในภูมิภาคนี้สูงขึ้น จึงมีความพร้อมใช้จ่ายด้านคุณภาพการศึกษามากขึ้น โรงเรียนนานาชาติจึงเข้ามาตอบโจทย์ อีกทั้งไทยยังอยู่ในทำเลที่ดีใกล้ในกลุ่มอาเซียน”

ปีแรกวางเป้าหมายรับนักเรียน 150 คน ในกลุ่มเด็กเล็กและประถมศึกษา ภายใน 8 ปี รองรับนักเรียนกว่า 1,250 คน  จำกัดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 16-18 คน  อัตราค่าเล่าเรียนอยู่ที่ 3.5-6 แสนบาทต่อปี หากได้รับการตอบรับและมีผู้สนใจสมัครเรียนจำนวนมาก พร้อมลงทุนเพิ่มในที่ดินที่ยังเหลืออยู่ โดยตั้งเป้าหมายจะคืนทุนภายใน 5-6ปี ไม่รวมทุนที่ดิน