‘ทีวีบูรพา’รุกส่งออกสารคดีไทย

อุตสาหกรรมการสร้างภาพยนตร์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” ที่รัฐบาลสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม
โดยประเทศไทย มีศักยภาพด้านการผลิตภาพยนตร์หลากหลาย รวมทั้ง“สารคดี” ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ประธาน บริษัท บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวว่า “ดีเอ็นเอ”ของ “ทีวีบูรพา” คือผู้ผลิตสารคดีนับตั้งแต่เริ่มต้นถึงปัจจุบันกว่า 13 ปี เก็บสะสมประสบการณ์และความรู้ด้านการผลิตสารคดีจากรุ่นก่อตั้ง เสริมทัพด้วยคนรุ่นใหม่ ทั้งทีมโปรดิวเซอร์และผู้บริหาร เพื่อมองหาโอกาสเติบโต ด้วยการขยายตลาดส่งออกสารคดีสู่ต่างประเทศมากขึ้นในปี 2560
พร้อมขยายการผลิตรายการในประเทศร่วมกับพันธมิตรเดิม ช่อง 9 ที่ปัจจุบันมีรายการประจำ คือ คนค้นฅน และกบนอกกะลา รวมทั้งการรับจ้างผลิตรายการสารคดีให้กับฟรีทีวีช่อง9 ช่อง7 และ ทีวีดิจิทัลช่อง NOW ที่จะเริ่มออกอากาศในปีหน้า
“เรามีต้นทุนและดีเอ็นเอผู้ผลิตสารคดีมากว่า 13 ปี มองว่าตลาดส่งออกสารคดีต่างประเทศจะสร้างโอกาสการเติบโตที่ดีหลังจากนี้”
ชนวัฒน์ วาจานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด กล่าวว่าปีนี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ จากเดิมมี 3 ธุรกิจหลัก คือการผลิตคอนเทนท์, มีเดีย (ขายโฆษณารายการทีวี)และ อีเวนท์ (IMC) โดยเพิ่มอีก 2ธุรกิจ คือ ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งและ บิซิเนส ดีเวลลอปเม้นต์ รับผิดชอบขยายตลาดต่างประเทศ
ปีหน้าบริษัทเตรียมรุกตลาดส่งออกสารคดีเต็มรูปแบบ โดยใช้“จุดแข็ง”ของทีวีบูรพา ที่มีประสบการณ์ผลิตสารคดีกว่า 13 ปี มี “ต้นแบบ ฟอร์มแมท” รายการสารคดีจำนวนมาก ประการสำคัญมีความโดดเด่นในการเป็น “นักเล่าเรื่อง” จากมุมมองและหลากหลายวัฒนธรรม ที่จะเป็นเครื่องมือแข่งขันกับต่างประเทศที่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์และเงินทุนในการผลิตจำนวนมาก
ปี2560 วางเป้าหมายรายได้จากตลาดส่งออกสารคดีมูลค่า 20 ล้านบาท โดยมี 3 รูปแบบธุรกิจ คือ การแข่งขันเสนอโปรโจค เพื่อรับงบประมาณในการผลิตจากแหล่งทุนต่างๆ คาดได้รับเงินลงทุน10 ล้านบาท, การขายลิขสิทธิ์รายการสารคดีและฟอร์แมท รายการให้กับ สถานีทีวีในต่างประเทศ คาดมีรายได้ 5 ล้านบาท ปัจจุบันเจรจากับสถานีทีวีใน เมียนมา และกัมพูชา ในการผลิตรายการฟอร์แมท คนค้นฅน และกบนอกกะลา และรูปแบบร่วมผลิต (Co- Production) กับผู้ผลิตและสถานีทีวีในต่างประเทศ โดยบริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์รายการ และให้สิทธิผู้ร่วมผลิตออกอากาศรายการ ส่วนนี้คาดมีรายได้ 5 ล้านบาท
สำหรับปีหน้าวางเป้าหมายรายได้ 215 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีนี้ แบ่งเป็นรายได้จากการผลิตคอนเทนท์ 25% มีเดีย 28% อีเวนท์หรือไอเอ็มซี 30-35% ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง 10% และตลาดต่างประเทศ 7% โดยกลุ่มที่เติบโตสูงคือ งานผลิตคอนเทนท์ให้หน่วยงานราชการและตลาดต่างประเทศ
ปีนี้ใช้โอกาสการจัดงาน Asian Side of the Doc ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย.2559 ครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเวทีการจัดงานในภูมิภาคเอเชีย ของงาน Sunny Side of the Doc ตลาดการซื้อขายสารคดีครบวงจรใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จัดขึ้นทุกปีที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นเวทีแนะนำสารคดี 4 เรื่อง คือ The Snake Master แดนอสรพิษ, Thailand's Blood Timer สงครามไม้พะยูง ,Only by the Light บ้านชนะใจ และ Dragon Kingdom เพื่อนำเสนอให้ผู้ผลิตสารคดี ,ผู้จัดจำหน่าย ผู้ซื้อ รวมทั้งนักลงทุนกว่า 100 ราย จาก 40 ประเทศทั่วโลกที่มาร่วมงานดังกล่าว
คว้าแชมป์ “เอเชียน ไซด์ ออฟ เดอะ ดอค”
ในการจัดงาน Sunny Side of the Doc คือตลาดการซื้อขายสารคดีครบวงจรใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับโลกมากว่า 20 ปี จัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นได้ขยายตลาดมาสู่ภูมิภาคเอเชีย โดยใช้ชื่อว่า Asian Side of the Doc ในปี 2559 ได้จัดงานขึ้นที่กรุงเทพฯ
หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในจีน ฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลี ด้วยเล็งเห็นความพร้อมและตั้งเป้าส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นตลาดซื้อขายภาพยนตร์สารคดีแบบครบวงจรแห่งแรกของภูมิภาคเอเชีย
ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีของประเทศไทยในการยกสถานะขึ้นเป็นตลาดซื้อขายสารคดีแห่งภูมิภาคเอเชีย เพื่อก้าวไปสู่ตลาดสากลและเป็นตัวช่วยในการผลักดันให้สารคดีจากประเทศไทยส่งออกไปสู่ตลาดโลก
ในการจัดงาน “เอเชียน ไซด์ ออฟ เดอะ ดอค” ได้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตจากทั่วโลกกว่า 40 โปรเจค เสนอรายการและภาพยนตร์สารคดีเข้าประกวดต่อคณะกรรมการ โดยประเทศในเอเชีย 6 ราย ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย ผลงานสารคดีเรื่อง Creepy Crawly Superfood ของทีวีบูรพา เป็นผู้ชนะรางวัลอันดับ 1
ณัฐธนัญ กุลระพีกร ผู้สร้างสรรค์ และโปรดิวเซอร์ สารคดี Creepy Crawly Superfood ทีวีบูรพา กล่าวว่าการชนะเลิศอันดับที่ 1 ทำให้ได้รับสิทธิเสนอโครงการต่อสถานีโทรทัศน์ต่างประเทศและนักลงทุนกว่า 100 ราย จาก 40 ประเทศ ในงาน เอเชียน ไซด์ฯ ปีนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้รับพิจารณาจากแหล่งทุนในการผลิตสารคดีชุดดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ในต่างประเทศ
สำหรับสารคดี Creepy Crawly Superfood เป็นเรื่องราวการนำแมลงและสัตว์เลื้อยคลานมาปรุงเป็นอาหารรูปแบบใหม่ ที่จะนำเสนอความงดงามทางอาหารและความร่ำรวยของภูมิปัญญาแบบไทยสู่สายตาชาวโลกในแง่มุมที่ยังไม่เคยถูกนำเสนอมาก่อน เพื่อตอกย้ำว่า “อาหารไทย คือ อาหารโลก” ที่ไม่ใช่เป็นเพียงกระแส แต่จะเป็นอาหารของโลกต่อไปในอนาคต







