'โชว์ดีซี'ผนึกพันธมิตรใหม่ เสริมจุดแข็งศูนย์การค้า

"โชว์ดีซี" ผนึกพันธมิตรใหม่ผุด "เมืองเกาหลี" บนเนื้อที่ 18,000 ตารางเมตร ขานรับกระแสความนิยม K-Pop หวังสู้ศึกค้าปลีกย่านพระราม 9
หลังลงทุนกว่า 9,500 ล้านบาท เนรมิตที่ดิน 44 ไร่ ย่านจตุรทิศ-พระราม 9 ผุด “โชว์ ดีซี” ศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนต์หรูครบวงจรแห่งแรกของไทย พร้อมเนรมิตรพื้นที่ 1.8 แสนตารางเมตร ให้ตลบอบอวนไปด้วยสไตล์เกาหลี ล่าสุด บริษัทผนึกพันธมิตร 2 พันธมิตรจากเกาหลี เปิดตัว “K-District by Mall Of Korea (MOK) @SHOW DC” ภายใต้งบลงทุน 1,000 เป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
นาชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ดีซี คอร์ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้ผนึกกับพันธมิตรเกาหลี 2 ราย คือผู้ประกอบการค้าปลีกจากเกาหลี และนักลงทุน ถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันราว 30% เพื่อลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดตัว ‘K-District by Mall Of Korea (MOK) @SHOW DC’ หรือเมืองเกาหลีที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศเกาหลี นำสินค้าและบริการจากเกาหลีมาให้บริการแก่ลูกค้าในเมืองไทย บนเนื้อที่ 18,000 ตารางเมตร เพื่อขานรับกับกระแสความนิยมวัฒนธรรมเกาหลีหรือ K-Popเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างมาก อีกทั้งวัฒธรรมเกาหลีก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จากก่อนหน้านี้จะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี ไอที
ทั้งนี้ สินค้าและบริการมากมาย เช่น เครื่องสำอาง สินค้าแฟชั่น ห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ตสไตล์เกาหลี โดยที่เป็นไฮไลท์ คือการเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกที่บรรดาบุคคลดังหรือเซเลบริตี้เกาหลีเลือกมาขยายธุรกิจ เช่น ร้านอาหารของตนเองเพื่อตอบสนองแฟนๆ ชาวไทย เช่น ร้าน PSY Noodle House By ไซ กังนัมสไตล์(Psy Gangnam Style) ร้านอาหาร After The Rainของนักร้องชื่อดังเรน(Rain) และบีทีเอส บริค คาเฟ่(BTS' BRICK CAFE)ของบอยแบนด์ชื่อดังวงBTS และร้านค้าของนักแสดงจากซีรี่ส์ฟูลเฮ้าส์ เป็นต้น
ทั้งนี้ การเปิดตัวเมืองเกาหลี เป็นการเติมเต็มและสร้างความแข็งแกร่งให้กับศูนย์การค้าโชว์ดีซีมากขึ้น โดยโครงการดังกล่าว เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนฤศจิกายนนี้ ขณะที่การก่อสร้างโครงการโชว์ ดีซี คืบหน้าไปแล้วค่อนข้างมาก และพื้นที่มีผู้เช่าแล้ว 93%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อทำตลาดและประชาสัมพันธ์ ตลอดจนจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการภายในศูนย์ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นคนไทยและต่างชาติในสัดส่วนเท่ากัน 50% โดยนักท่องเที่ยวนั้นจะเป็นทั้งกลุ่มที่มาเที่ยวในรูปแบบทัวร์และอิสระ
“เราได้มีการเซ็นสัญญากับตัวแทน บริษัททัวร์ต่างๆ ราว 220 ราย เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้า และยังมีชัตเทิลบัส รับส่งลูกค้า ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ เมื่อเช็คเอาท์จากห้องพัก สามารถมาเดินช็อปปิ้งได้ โดยเรามีล็อกเกอร์นับพันไว้ฝากของ ขณะที่ภายในศูนย์ยังมีกิจกรรมต่างๆเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์องค์บาก ไลฟ์ เป็นต้น ซึ่งจะมีทั้งโชว์ในรูปแบบประจำ และปรับเปลี่ยน”
ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งจับกลุ่มเป้าหมายต่างจังหวัดด้วย ซึ่งมีการเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ราว 32 ล้านคนต่อปีด้วย
สำหรับโชว์ ดีซี เป็นศูนย์การค้าที่เกิดจากการร่วมทุนกับพันธมิตรไทยและมาเลเซีย ถือหุ้นกันในสัดส่วน 51:49% โครงการต้องการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายย่านพระราม 9 ในระยะ 5 กิโลเมตร โดยยอมรับว่าโซนดังกล่าวมีห้างค้าปลีกค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการชอปปิงเป็นหลัก แต่บริษัทมีจุดแตกต่าง คือเป็นศูนย์การค้าเน้นด้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์ 50% อาหารและเครื่องดื่ม 25-27% และเป็นชอปปิง 23-25% โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะคืนทุนภายใน 5-7 ปี
นอกจากนี้ บริษัทวางแผนพัฒนาโครงการเฟส 2 เป็นโรงแรม 4-5 ดาว ขนาด 500 ห้อง โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 ปีเศษ
เขากล่าวอีกว่า บริษัทวางแผนระยะยาว 10 ปี ขยายศูนย์การค้าโชว์ ดีซี ไปยังต่างจังหวัดและต่างประเทศให้ได้ 12 สาขา โดยปี 2560 จะเริ่มขยายไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ตามด้วยภูเก็ต ส่วนต่างประเทศจะเริ่มที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากผู้ร่วมทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมีโครงการค้าปลีกเป็นฐานที่นั่นอยู่แล้ว ส่วนการลงทุนดังกล่าวจะมีขนาดตั้งแต่ 80,000 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนราว 4,000-5,000 ล้านบาท โดยโมเดลการลงทุนนอกจากมีศูนย์การค้าแล้วจะต้องมีโรงแรมด้วย
ด้านนางซาร่า คิม ประธานคณะกรรมการ บริษัท มอลล์ ออฟ โคเรียหรือเอ็มโอเค(MOK) กล่าวว่า บริษัทวางแผนจะขยายธุรกิจค้าปลีกไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยประเดิมไทยเป็นประเทศแรกที่ด้วยการเปิดโครงการ ‘K-District by Mall Of Korea' ภายในศูนย์การค้าโชว์ ดีซี ซึ่งการทำตลาดในประเทศไทยจะใช้เหล่าศิลปิน คนดัง หรือเซเลบริตี มาเป็นกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จได้
ทั้งนี้ กระแสเกาหลีในประเทศไทยเกิดขึ้นกับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรนม ซีรี่ส์ นักร้อง อาหาร เครื่องสำอาง ล้วนได้รับความนิยมอยู่ในอันดับต้นๆอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากเปิดสาขาแห่งแรกในกรุงเทพฯ บริษัทวางแผนจะเปิดสาขาที่เชียงใหม่เพิ่มเติม รวมถึงขยายไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยตั้งเป้าหมายจะขยายให้ได้ 17 แห่งทั่วโลก
"เอ็มโอเคต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเราใช้กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรกในการเปิดสาขา และเชื่อมั่นว่าการใช้เซเลบริตี้ จะช่วยให้ประสบความสำเร็จง่าย เราเชื่อมั่นในวัฒนธรรมเกาหลี และต้องการจุดประกายการส่งออกสินค้าความบันเทิงหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ไปบุกตลาดทั่วโลก"







