'ครม.' ไฟเขียวร่างกฎหมายปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
"ครม."เห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ "รมว.คลัง" หวังเป็นจุดเริ่มต้นสร้างความโปร่งใส-ปลอดการเมือง ด้านผู้บริหารรสก.มั่นใจส่งผลดีต่อองค์กร
รัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยผลักดันร่างกฎหมายใหม่ขึ้นมาดูแล พร้อมกำหนดกฎกติกาตามมาตรฐานสากลและจัดตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจแห่งชาติขึ้นมากำหนดทิศทางการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจเหมือนกับหลายประเทศที่ทำมาแล้ว
เป้าหมายของร่างกฎหมายดังกล่าวต้องการให้รัฐวิสาหกิจดำเนินงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองเหมือนในอดีต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญให้รัฐวิสาหกิจไร้ประสิทธิภาพ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....(ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ) ซึ่งหลักการของกฎหมายดังกล่าวจะมุ่งเน้นการปฏิรูปและสร้างกลไกการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ
“เป้าหมายหลักในการให้บริการสาธารณะที่มีคุณภาพแก่ประชาชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของประเทศ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานระดับสากล และสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองที่ไม่รับผิดชอบ”
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่าการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยได้ยั่งยืน
ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) กล่าวว่า พ.ร.บ.กำกับรัฐวิสาหกิจ มีส่วนช่วยให้การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจดีขึ้น เพราะจะมีการกำกับตั้งแต่กระบวนการสรรหากรรมการของรัฐวิสาหกิจ การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้จัดการธนาคาร และรอง 3 อันดับ
ในส่วนของการดำเนินงานของธนาคารก็ไม่ได้มีผลกระทบกระทบอะไร เพราะในส่วนของการทำแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 5 ปี นั้น โดยปกติธ.ก.ส. รวมถึงรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็ได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวอยู่แล้ว
ทอท.เชื่อทำให้คัดเลือกบอร์ดโปร่งใส
นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า หาก พ.ร.บ.กำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจมีการกำหนดใช้เชื่อมั่นว่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้องค์กรรัฐวิสาหกิจเดินหน้าด้วยความโปร่งใสและมีแบบแผนมากขึ้น
ในส่วนของ ทอท.ปัจจุบันได้เตรียมการพัฒนาองค์กรให้มีความโปร่งใสและรองรับการควบคุมจาก พ.ร.บ.กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจฉบับดังกล่าวแล้ว ผ่านการนำร่องใช้โครงการคอสต์ (Construction Sector Transparency Initiative) หรือCoSTมาตรวจสอบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“หากการนำ พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้ามากำกับดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและก่อให้เกิดความโปร่งใส โดยเฉพาะประเด็นการสรรหาบอร์ดที่จะต้องระบุถึงคุณสมบัติของผู้สมัครอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันประเด็นทางการเมืองนั้น ส่วนตัวมองว่าหาก พ.ร.บ.ดังกล่าวกำหนดเช่นนั้นก็จะทำให้องค์กรรัฐวิสาหกิจมีบอร์ดที่มีความเชี่ยวชาญถูกด้าน และทำให้องค์กรเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเข้ามาทำงาน จึงถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะเกิดขึ้น”
ขสมก.มั่นใจส่งผลดีต่อรัฐวิสาหกิจ
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ประธานบอร์ด องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่ายังไม่ทราบถึงรายละเอียดของ พ.ร.บ.กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบ แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่าหาก พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีจุดประสงค์เข้ามาผลักดันให้องค์กรเกิดความโปร่งใสก็ถือเป็นแนวทางที่ดีต่อหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะประเด็นการสรรหาคณะกรรมการบอร์ดที่จะมีการกำหนดถึงคุณสมบัติของบุคคลให้สอดคล้องกับเนื้องานที่ยังขาดนั้น จะเป็นประโยชน์ขององค์กรอย่างชัดเจน และจะก่อให้เกิดความโปร่งใสจากการสรรหา
ทั้งนี้ ยอมรับว่าคณะกรรมการบอร์ดชุดปัจจุบันส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง เนื่องจากเป็นบอร์ดที่ต้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมของขสมก. และจำเป็นต้องเร่งรัดแต่งตั้งเพื่อไม่ให้เกิดรอยต่อของตำแหน่งงาน ซึ่งแต่ละบุคคลที่เข้ามารับตำแหน่งบอร์ดก็มีความหลากหลายด้านอาชีพ
ดังนั้นหาก พ.ร.บ.มีการกำหนดข้อจำกัดของการสรรหาอย่างชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการสรรหาบุคคลเข้ามารับตำแหน่งบอร์ดมากขึ้น