กลุ่มเมืองไทยรุกตลาดประกันลาว
กลุ่มเมืองไทยรุกตลาดประกันลาว ผนึก ST Bank ลุย “แบงก์แอสชัวรันซ์” สานนโยบายสู่ บริษัทประกันระดับภูมิภาค
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า บริษัทเอสที -เมืองไทย อินชัวรันส์ (ST-MTI) เป็นบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ใน สปป.ลาว ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจรับประกันชีวิตและประกันวินาศภัยใน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยบริษัทดังกล่าวเป็นการร่วมทุนเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ระหว่าง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) บริษัท เมืองไทยประกันภัย (MTI) บริษัท เมืองไทยโฮลดิ้ง และ บริษัท เอส.ที.กรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจธนาคาร เอสที แบงก์ ใน สปป.ลาว
ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิจของ ST-MTI ในระยะ 5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทจะเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เน้นลูกค้าของเอสทีแบงก์และลูกค้าทั่วไปใน สปป.ลาวซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ และลูกค้าบุคคลที่มีรายได้ปานกลาง-สูง
นายสาระ กล่าวว่า โมเดลธุรกิจของ ST-MTI จะเริ่มต้นด้วยการดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการขายผ่านธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันซ์ อย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัยจุดแข็งจาก ST Bank ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนชั้นนำของสปป.ลาว ที่มีสาขาทั้งหมด 5 แห่ง และ 32 หน่วยบริการ
“ด้วยประสบการณ์และแบรนด์ของธุรกิจประกันชีวิตชั้นนำจากประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของลูกค้าชาวลาว บวกกับเครือข่าย และความรู้จักคุ้นเคยกับลูกค้าชาวลาวของ ST Bankเราจึงกำหนดตำแหน่งทางธุรกิจของ ST-MTI ให้เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูง และคุณภาพการบริการสูงเช่นกัน ในฐานะที่เป็นบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัยใน สปป.ลาว และเชื่อมั่นว่าบริษัทใหม่นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน”
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะเริ่มทำตลาดในช่วงเริ่มต้นธุรกิจนั้น ในส่วนประกันชีวิตจะเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทคุ้มครองภาระสินเชื่อ เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ลูกค้าสินเชื่อ ระยะถัดไป จะทยอยพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบคุ้มครองตลอดชีพ และแบบสะสมทรัพย์ออกมาเป็นทางเลือก
“เมืองไทยประกันชีวิต มีนโยบายที่จะก้าวไปสู่การเป็น “บริษัทประกันชีวิตระดับภูมิภาค” ซึ่งพร้อมที่จะต่อยอดศักยภาพและประสบการณ์ด้านประกันชีวิตออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เป็นกลุ่มแรก การได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยใน สปป.ลาว ครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญบนการเดินหน้าสู่การเป็น Regional Company ที่ครอบคลุมและเข้มแข็งด้วย” นายสาระ กล่าว
ขณะที่นางนวลพรรณ ล่ำซำกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ด้านประกันวินาศภัย บริษัทมีแผนจะเริ่มต้นจากขายประกันอัคคีภัยและประกันภัยทรัพย์สิน ในฐานลูกค้าธนาคารหรือแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการคุ้มครองสำหรับทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันของธนาคาร รวมถึงการประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากตลาดรถยนต์ใน สปป.ลาว กำลังขยายตัวจึงทำให้มีความต้องการประกันภัยรถยนต์มากขึ้น
“การร่วมทุนธุรกิจใน สปป.ลาว ครั้งนี้ นับเป็นการสร้างโมเดลธุรกิจแบบไร้พรมแดนระหว่างไทยและลาว โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ ภายใต้กลุ่มเมืองไทย ซึ่งมีรถยนต์ที่เดินทางระหว่างสองประเทศ ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการทั้งลูกค้าไทยและลาว ได้อย่างดี ตลอดจนเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น รวมถึงภายในปีนี้ จะเร่งพัฒนาประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการขนส่ง และประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด ที่จะให้ความคุ้มครองธุรกิจหยุดชะงัก”นางนวลพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ แม้แผนธุรกิจในระยะเริ่มต้นจะมุ่งที่ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์แต่ขณะเดียวกัน ST-MTI จะพัฒนาช่องทางการขายผ่านตัวแทนควบคู่อีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าชาวลาวที่ต้องการซื้อประกันภัยกับคนที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย ที่มีรายละเอียดความคุ้มครองซับซ้อนขึ้น




