'กระทิงแดง'รุกตลาดพรีเมียมเจาะรุ่นใหม่

“กระทิงแดง”เดินหน้าปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ชูสินค้าพรีเมียมขยายฐานคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม 3-5%
นายสุรชัย จงเลิศวราวงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง “กระทิงแดง” เปิดเผยว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ของนายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ต้องการขยายฐานลูกค้าไปสู่คนรุ่นใหม่ ในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน (เอ็นเนอร์จี้ ดริ้งค์) ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ เรดบูล (Red Bull)
ขณะที่แบรนด์กระทิงแดง ที่ทำตลาดในไทย มักถูกมองว่าเป็นกลุ่มเครื่องดื่มสำหรับผู้ใช้แรงงาน ที่ผ่านมาจึงให้ความสำคัญกับการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ไปพร้อมกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มพรีเมียมเพื่อขยายฐานตลาดและรายได้
หลังจากเปิดตัวเครื่องดื่มแบรนด์เรดดี้ในช่วง 6-7 ปี รวมถึงทำตลาดกระทิงแดง G2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระทิงแดงG3” รวมถึง “เรดดี้ ซ่าส์” โดยตั้งเป้าหมายหลังจากทำตลาดสินค้าดังกล่าว จะช่วยผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังพรีเมียมปี้นี้ เพิ่มขึ้นอีก 3-5% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 25-26% คาดผลักดันยอดขายสินค้ากลุ่มดังกล่าวเติบโต 5-8% คิดเป็นมูลค่า 3,300-3,400 ล้านบาท
“จากการมุ่งมั่นทำกิจกรรมร่วมกับผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทำให้ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของเครื่องดื่มกระทิงแดงเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเข้ามาช่วย รวมถึงการเน้นสื่อออนไลน์ และการสนับสนุนกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีม”
ขณะเดียวกันเตรียมงบการทำตลาดปีนี้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น งบการทำตลาดกลุ่มกระทิงแดง 200 ล้านบาท และเรดดี้ 100 ล้านบาท ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่น “แจกสุดเท่ สุดEXTREME” ภายใต้การร่วมมือกับสยามแม็คโคร ในการสนับสนุนพื้นที่การจัดงานดังกล่าว โดยมั่นใจว่าจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายกระทิงแดงเพิ่มขึ้นอีก10%
นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการตอกย้ำสโลแกน “ลูกผู้ชายตัวจริง” ด้วยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารส” หลังจากที่ใช้ เต๋า-สมชาย เข็มกลัด และพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ มองว่าการนำกลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อต้องการให้ภาพลักษณ์ของสินค้าให้ดูเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
“การคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ของกระทิงแดง จะต้องเป็นบุคคลที่คนไทยรู้จัก ขณะที่บุคลิกจะต้องเข้ากับจุดยืนสินค้า ที่มีความเป็นลูกผู้ชายตัวจริง”
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัท แบ่งเป็นเครื่องดื่มกระทิงแดงกลุ่มแมส ได้แก่ กระทิงแดง คลาสิค, กระทิงแดง ทีโอเปล็กซ์-แอล (ขวดเล็ก), กระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า เอบีซี (ฝาแดง) และกระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า ซิงค์ (ฝาดำ) ส่วนกลุ่มพรีเมียม ประกอบด้วย กระทิงแดงG2,G3, เรดดี้ และเรดดี้ ซ่าส์
ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า 21,400 ล้านบาท ช่วง 5เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ที่ผ่านมา อยู่ในภาวะหดตัว 2-3% โดยเฉพาะเดือน ม.ค.และก.พ. เป็นผลมาจากปัจจัยลบต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งกระทบต่อการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลัง
"การแข่งขันของตลาดในปีนี้ ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง ทำให้ไม่สามารถทำโปรโมชั่นเปิดฝาแจกของรางวัลเหมือนในอดีต แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการยังคงจัดแคมเปญชิงโชคของรางวัลต่างๆ ต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ตามมั่นว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้ ยังมีโอกาสเติบโต 1-2% ใกล้เคียงปี2558 ที่เติบโต 1% เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดไม่ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมการตลาดมากนัก
ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง "เอ็ม150"ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 57.7% ลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 59.5% อันดับ 2 คาราบาวแดง 21.1% จาก 21% ตามด้วย กระทิงแดง 16.3% จาก 15.9%







