'3 ดีลใหม่' สตอรี่ต่อไป PLAT

'3 ดีลใหม่' สตอรี่ต่อไป PLAT

ราคาหุ้นไม่วิ่ง แต่แผนธุรกิจ 5 ปี พร้อมออกมาโลดแล่น เอาใจแฟนคลับ 'ชาญชัย พันธุ์โสภา' เอ็มดีคนใหม่ 'เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป'

โครงการ เดอะมาร์เก็ต บาย แพลทินัม ย่านราชประสงค์ที่มีความคืบหน้าล่าช้ากว่ากำหนดอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ ราคาหุ้น เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป หรือ PLAT ของ 'กลุ่มโชติจุฬางกูร' ในฐานะหุ้นใหญ่ ไม่เคยซื้อขายพ้นราคาจอง 7.40 บาท นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2558 ปัจจุบันซื้อขายเฉลี่ย……บาท

เมื่อความเชื่อที่เหล่าเซียนหุ้นรายใหญ่เคยมีต่อหุ้น PLAT จืดจางลง 'ชาญชัย พันธุ์โสภา' ที่เพิ่งเข้ามานั่งตำแหน่ง 'กรรมการผู้จัดการใหญ่' เมื่อเดือนส.ค.2558 คงต้องเร่งมือเรียกศรัทธากลับคืนมา...

หากย้อนดูประสบการณ์การทำงานที่มีมานานกว่า 20 ปีของ 'ชาญชัย' จะพบว่า เขาเคยใช้ชีวิตมุนษย์เงินเดือนอยู่ในบริษัทข้ามชาติมากกว่า 80% ขณะเดียวกันยังมีคอนเนคชั่นที่ดี ทั้งในแวดวงธุรกิจและนักลงทุนรายใหญ่ เช่น นเรศ งามอภิชน,เสี่ยยักษ์-วิชัย วชิรพงศ์ และ เสี่ยปู่-สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าพันธมิตรที่มีประสบการณ์การทำงานในหลากหลายอาชีพด้วย ทว่า 'จุดเด่น' ที่มีเหล่านั้นของนายคนใหม่จะช่วยกระตุ้นเรตติ้งหุ้น PLAT ได้หรือไม่?

'แพลทินัม แฟชั่นมอลล์' เรือธงสู่ความสำเร็จของ 'เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป' กรรมการผู้จัดการใหญ่ ยืนยันกับ 'กรุงเทพธุรกิจ Biz Week' 

เขา ถือโอกาสฉายแผนธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2559-2563) ให้ฟังว่า บริษัทต้องการขึ้นแท่น 'ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ' ซึ่งผู้นำคนนี้จะต้องมีทั้งความโดดเด่น และมีศักยภาพในการเติบโต

เราเชื่อว่า องค์กรที่มีความเป็นมืออาชีพอย่าง PLAT จะสามารถคว้าความสำเร็จนี้มาครอบครองได้ไม่ยาก เพราะหากย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนจะพบว่า แพลทินัม คือ ศูนย์ค้าส่งแฟชั่น ที่เหล่าแม่ค้าพ่อค้า และนักช็อป ทั้งในประเทศและต่างประเทศรู้จักเป็นอย่างดี

'เรื่องที่ต้องทำต่อไป คือ ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ตามความคาดหวังของนักลงทุน'

จากนี้ไปเราจะเน้นทำ 4 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพื้นที่เช่าศูนย์การค้า, ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจบริหารอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย รวมถึงธุรกิจศูนย์อาหาร ที่ผ่านมาแพลทินัมถูกมองว่า เป็นเพียงศูนย์แฟชั่นและค้าส่ง แต่ความเป็นจริงเราเป็นมากกว่านั้น

จริงอยู่ที่ว่า ธุรกิจศูนย์การค้าเป็นงานที่มีผลตอบแทนที่ดี แต่ก็มีความเสี่ยงมากที่สุดเช่นกัน แม้ศูนย์การค้านั้นจะมีทำเลที่ดีก็ตาม เพราะถ้าขายสินค้าไม่ได้ ก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้นเราต้องกระจายความเสี่ยง

'กรรมการผู้จัดการ' เล่าว่า ปัจจุบันโครงการหลายๆแห่งมีความคืบหน้าไปบ้างแล้ว หลังล่าช้ากว่ากำหนดเดิมมานาน โดยเฉพาะโครงการเดอะมาร์เก็ต บาย แพลทินัม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ บริเวณราชประสงค์ ปัจจุบันบริษัทเข้าไปปรับพื้นที่แล้ว และลงเสาเข็มไปแล้วเมื่อกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ตามแผนการลงทุนเดิม โครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า พื้นที่เช่า 30,000 ตารางเมตร และโรงแรม 4 ดาว ประมาณ 380 ห้อง

แต่เมื่อต้นเดือนม.ค.2559 บริษัทได้ยื่นขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงโครงการให้สามารถก่อสร้างได้เต็มพื้นที ด้วยการเพิ่มเติมการก่อสร้าง อาคารสำนักงานออฟฟิศให้เช่า พื้นที่เช่า 30,000-35,000 ตารางเมตร หลังตลาดออฟฟิคกลางเมืองขยายตัวสูงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

บริษัทคาดว่าจะเปิดให้บริการในส่วนของศูนย์การค้าภายในปี 2561 ซึ่งสินค้าที่จะวางขายส่วนใหญ่จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น เสื้อผ้า อาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้แบรนด์คนไทย โดยเราจะรวมสินค้าจากตลาดนัดจตุจักร ตลาดอ.ต.ก. และคลองถม มาไว้ในศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อดึงดูดกำลังซื้อของนักท่องเที่ยว

สำหรับความคืบหน้าในการลงทุน โรงแรม 2 แห่ง บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ โรงแรม Holiday Inn Express จำนวน 200 ห้อง และ โรงแรม Holiday Inn Resort จำนวน 150 ห้อง ล่าสุดเราได้ปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ จากเดิมที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,300 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และการก่อสร้างอาจเสร็จล่าช้ากว่าแผนเดิมประมาณ 2 เดือน

ส่วนโครงการคอมมิวนิตี้มอลล์ เดอะ วอร์ฟ สมุย ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว เมื่อปีก่อน โครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย แบรนด์ร้านค้าแม็กเนตใหม่ๆ

ส่วนความคืบหน้าโครงการทางเชื่อมแบงกอก สกายไลน์ มูลค่าลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทางเชื่อมระหว่างบีทีเอส ชิดลม และศูนย์การค้านั้น ที่ผ่านมาได้ลงมือก่อสร้างเฟสแรกไปแล้ว คาดว่าภายในปี 2559 จะเปิดให้บริการในช่วงแพลทินัมถึงบิ๊กซี ราชดำริ ส่วนเฟสสองที่จะอยู่ในช่วงห้างเกสรพลาซ่าอาจเปิดให้บริการภายในปี 2560

๐เล็งซื้อกิจการใหม่ 3 โปรเจค

'เอ็มดีใหญ่' บอกว่า โครงการที่กล่าวไปข้างต้นเป็นงานที่เคยพูดไว้ตอนนำบริษัทเข้ามาระดมทุน ล่าสุดเรายังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีกประมาณ 3 โปรเจค แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

บอกได้เพียงว่า แต่ละโปรเจคอยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่ และกำลังเจรจากับเหล่าพันธมิตร คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เบื้องต้นอาจใช้เงินลงทุนสูงถึงระดับ 'หมื่นล้านบาท' และอาจเปิดให้บริการในปี 2564

ส่วนโปรเจคอื่นๆ บริษัทมีแผนจะเข้า 'ซื้อกิจการ' ในหลากหลายธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงานให้เช่า ศูนย์การค้า และโรงแรม ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของเดิมที่มีกว่า 10 ราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดภายในปีนี้ อาจได้ข้อสรุปอย่างน้อยหนึ่งราย

ฉะนั้นภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 50,000 ตารางเมตร และมีโรงแรม จำนวน 380 ห้อง อาคารสำนักงงาน พื้นที่ 30,000-35,000 ตารางเมตร

'ผมเชื่อว่าเราสามารถทำได้มากกว่านี้'
แต่ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เราจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ พูดง่ายๆว่า เราจะเน้นงานประเภทศูนย์การค้าเป็นหลัก แต่จะเสริมเรื่องโรงแรม อาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย เพื่อดึงดูดเงินนักท่องเที่ยว

'เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดของพนักงาน อย่าให้พนักงานยึดติดกับความคิดเดิมๆเหมือนเมื่อสิบปีก่อน ที่สำคัญเราต้องผสมผสานพนักงานเดิมกับพนักงานใหม่เข้าด้วยกัน โดยจะนำความคิดของคนแต่ละรุ่นมาร่วมกันขับเคลื่อนองค์กร'

เมื่อถามถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เขาตอบว่า ข้อแรก เราจะไม่มองเพียงธุรกิจค้าส่ง แต่จะพิจารณาว่าควรทำอย่างไรให้สามารถเดินหน้าไปสู่ธุรกิจค้าส่งประเภทอื่นๆได้ด้วย ซึ่งเราก็อยู่ระหว่างศึกษา

ข้อสอง บริหารทุกธุรกิจด้วยความเข้าใจ เพราะงานทุกชิ้นย่อมมีการบริหารแตกต่างกัน ปัจจุบันธุรกิจศูนย์การค้าทำยากที่สุด แต่ได้กำไรสูงสุด ส่วนธุรกิจโรงแรม แม้จะทำยากกว่าศูนย์การค้าเล็กน้อย และมีการลงทุนสูง แต่กำไรอยู่ในระดับดี สำหรับอาคารสำนักงาน ลงทุนไม่สูง บริหารง่ายสุดต้องยกให้อาคารที่อยู่อาศัย

และ ข้อสาม ปัจจุบันย่านการค้าทำเลทองยังคงอยู่บนถนนราชประสงค์และประตูน้ำ ฉะนั้นโครงการใหม่ๆของเราคงต้องยึดแถวนี้เป็นทำเลหลักต่อไป

๐สามกลยุทธ์เคลื่อนองค์กร

นายคนใหม่ บอกว่า ในช่วง 2559-2560 เราจะรับรู้รายได้หลักจาก 3 ธุรกิจ นั่นคือ ธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันบริษัทรับรู้รายได้จาก โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม โดยในปี 2559 อาจสร้างรายได้และกำไรมากกว่าปีก่อน หลังสามารถลดต้นทุนการบริหารคน และการบริหารจัดการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างดี

ขณะเดียวกันในช่วงไฮซีซั่นของปีนี้อาจมีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 90% เทียบกับปี 2558 ที่อาจมีอัตราการเข้าพักระดับ 85% ฉะนั้นโอกาสจะเห็นกำไรสุทธิของธุรกิจนี้ดีกว่าเมื่อสองปีก่อนไม่ใช่เรื่องยาก

ธุรกิจศูนย์อาหาร เดิมธุรกิจดังกล่าวเกิดขึ้นมา เพื่อสนับสนุนธุรกิจศูนย์การค้า แต่ตอนนี้เราหันมาให้ความสำคัญในธุรกิจนี้มากขึ้น โดยเมื่อ 2-3 เดือนก่อน บริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์การทำงานใหม่ ทำให้ศูนย์อาหารมีรายได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้เรามีแผนจะเพิ่มศักยภาพของธุรกิจดังกล่าว

ธุรกิจบริหารจัดการสัญญาเช่าพื้นที่ ปัจจุบันเรามีประเภทของสัญญาเช่าอยู่ 3-4 ลักษณะ แต่จะเน้นสัญญาเช่าเป็นรายปี ตั้งแต่ 1-10 ปี ล่าสุดเราวางแผนจะเข้าไปปรับเปลี่ยนสัญญาเช่าระยะ 5-10 ปี เป็น 1-2 ปี เพื่อเพิ่มรายได้ค่าเช่าต่อปีให้มากขึ้น เนื่องจากเราเก็บค่าเช่าประเภทดังกล่าวเพียง 2,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันเรามีลูกค้าที่อยู่ในสัญญาดังกล่าวมาแล้ว 5 ปี ฉะนั้นเราจะปรับในส่วนที่เหลืออีก 5 ปี

'ชาญชัย' ทิ้งท้ายว่า ในปี 2558 บริษัทอาจมี 'กำไรสุทธิสูงสุด' นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา หลังในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 458.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโตมากกว่าปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 438.46 ล้านบาท ขณะเดียวกันทิศทางผลกำไรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนยังออกดีกว่าช่วงที่ผ่านมา หลังมีการปรับค่าเช่าพื้นที่ตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา

'รายได้ปี 2559 อาจเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%'