รมว.พลังงานรับสำรองไฟฟ้าจริง อาจเหลือ25%

รมว.พลังงานรับสำรองไฟฟ้าจริง อาจเหลือ25%

"พล.อ.อนันตพร"ยอมรับสำรองไฟฟ้าที่ผลิตได้จริงอาจเหลือแค่ 25% มองปริมาณสำรองไฟฟ้าที่สูง เป็นเพียงตัวเลขกำลังการผลิตติดตั้งเท่านั้น

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานยังคงสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี (2558-2579) หรือพีดีพี2015 ที่ 20-25% ในปี 2579 แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ขนาด 800 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา กำลังการผลิตรวม 2 พันเมกะวัตต์ เนื่องจากกระทรวงพลังงานยังคาดหวังว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะสามารรถเกิดขึ้นตามแผน โดยกระทรวงพลังงานต้องการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่มากกว่า

รวมทั้งจะพิจารณาสิทธิ์ประโยชน์ให้กับชุมชนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีการนำกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเข้ามาดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ส่วนความจำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเข้ามา แม้จะถูกมองว่าประเทศมีปริมาณไฟฟ้าสำรองอยู่ในปริมาณมากเกินความจำเป็นนั้น ในส่วนนี้ต้องเข้าในว่าปริมาณสำรองที่พูดถึงนั้น คิดจากกำลังการผลิตติดตั้ง แต่หากคิดจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตเข้าระบบได้จริง จะไม่ถึง 25 % อีกทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เข้ามา เพื่อเป็นการทดแทนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ที่กระทรวงพลังงานต้องการลดสัดส่วนการใช้ก๊าซฯลงมา และต้องการกระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามแผน กระทรวงพลังงานจะทบทวนแผนพีดีพี2015 ในปี 2559 ต่อไป เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อาทิ อาจมีการปรับสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซมากขึ้น หรือเพิ่มพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น แต่มองว่าสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าตามแผนพีดีพี2015 มีความเหมาะสมแล้ว โดยกำหนดให้สัดส่วนก๊าซในการผลิตไฟฟ้าลดลงเหลือ 30-40% ,ถ่านหิน 20-25% และพลังงานหมุนเวียน 15-20%

สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามแผนพัฒนาพลังงานและพลังงานทางเลือก(เออีดีพี) โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ที่มีสัดส่วนถึง 6 พันเมกะวัตต์ในปี 2579 นั้น เบื้องต้นยังคงเป็นไปตามแผน เนื่องจากผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ทั้ง 5 แผนแล้ว แต่หากในอนาคตโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้นไม่ได้ อาจต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจต้องมีการทบทวนแผนดังกล่าวด้วย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับค่าไฟในอนาคต

"ตอนนี้กระทรวงพลังงาน ยังคาดหวังว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะเกิดขึ้นได้ตามแผน ซึ่งเตรียมหาแนวทางช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่เพิ่มเติมนอกเหนือจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งเชื่อว่าหากชุมชนมีความเชื่อมั่นเทคโนโลยี และการดูแลที่ดี เชื่อว่าในอนาคตโรงไฟฟ้าถ่านหินจะเกิดมากขึ้น อย่างไรก็ตามจะมีการทบทวนแผนพีดีพีทุก 5 ปี"รมว.พลังงาน กล่าว