คมนาคมเดินหน้าตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบิน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมสัมมนาทดสอบตลาด หรือ Market Sounding โครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบเบื้องต้นในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินครั้งแรกของประเทศไทย โดยยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมจะเดินหน้าเร่งรัดศึกษาเรื่องดังกล่ว เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและการออกแบบเบื้องต้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 และคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในเดือนกันยายน 2558

นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยืนยันถึงความจำเป็นการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมการบินในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันแต่ละปีไทยมีอากาศยานหมุนเวียนซ่อมบำรุงประมาณ 200 ลำ โดยจำนวนดังกล่าวครึ่งหนึ่งนำไปซ่อมบำรุงต่างประเทศ ซึ่งค่าใช้จ่ายครั้งละ 600,000 บาทต่อลำ ดังนั้น แต่ละปีงานซ่อมบำรุงอากาศยานจะมีมูลค่างานสูงถึงปีละ 20,000 ล้านบาท และจะมีการเติบโตขึ้นทุกปีตามทิศทางของอุตสาหกรรมการบิน ในประเทศปีละร้อยละ 6 หรือมีมูลค่าอุตสาหกรรมสูงถึง 300,000 ล้านบาทใน 10 ปีข้างหน้า หากไทยไม่มีนิคมฯ การบินในประเทศและต้องพึ่งพาการซ่อมบำรุงต่างประเทศก็จะเกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เป็นเงินจำนวนมาก

ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวคาดว่ารับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนวันนี้ สนข.จะดำเนินการสรุปผลทั้งหมดภายในเดือนกันยายน ซึ่งจะสามารถกำหนดพื้นที่การตั้งนิคมฯ การบินที่เหมาะสมว่าจะเป็นพื้นที่จังหวัดใด ปัจจุบันศึกษาความเป็นไปได้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย อู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี นครราชสีมา พิษณุโลก เชียงราย และสุราษฎร์ธานี ส่วนการขับเคลื่อนการทำงานนั้น เห็นว่าควรจะมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เนื่องจากการผลักดันพื้นที่นิคมฯ การบินจะเกี่ยวกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม จึงต้องมีคณะกรรมการที่สามารถผลักดันงานได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเร็ว ๆ นี้จะรายงานให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับทราบ หลังจากนั้นจะมีการนำเสนอให้รัฐบาลศึกษารายละเอียดข้อเสนอของภาคเอกชนที่รับฟังมาว่าต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนสิทธิพิเศษและมาตรการอะไรเพิ่มบ้าง ส่วนการศึกษาและออกแบบนั้น ขณะนี้ สนข.มีงบประมาณดำเนินการ 75 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดดำเนินการ